Trade/Logistics
Hot News: ลาลามูฟ ชู “เศรษฐกิจแพลตฟอร์ม” ทางเลือกใหม่สร้างรายได้ในยุคดิจิทัล
http://www.tviclick.com
Home Page iClick News.com
Home
Print this webpage
Print
English Version
English
ลาลามูฟ ชู “เศรษฐกิจแพลตฟอร์ม”
ทางเลือกใหม่สร้างรายได้ในยุคดิจิทัล
นางสาวกัญยาณัฐ ฉายงาม พาร์ทเนอร์คนขับจาก ลาลามูฟ ประเทศไทย เปิดเผยว่า เมื่อเทียบกับงานประจำที่เคยทำ ปัจจุบันมีอิสระทั้งในการทำงานและการใช้ชีวิตมากขึ้น สามารถใช้เวลากับครอบครัวได้เต็มที่ ซึ่งถือเป็นความสุขที่แท้จริง นอกจากนี้ การร่วมงานกับลาลามูฟยังช่วยเพิ่มรายได้ ทำให้สามารถดูแลค่าใช้จ่ายของครอบครัวได้ครบถ้วน และมีอิสระทางการเงินมากขึ้นอีกด้วยื เพื่อตอกย้ำบทบาทสำคัญของพาร์ทเนอร์คนขับ ลาลามูฟเตรียมเปิดตัวแคมเปญ “Heroes Behind The Wheel” รวบรวมเรื่องราวความสำเร็จและแรงบันดาลใจจากพาร์ทเนอร์คนขับหลากหลายประเทศ ถ่ายทอดมุมมองและประสบการณ์จริงของพวกเขา เพื่อยกย่องว่าพาร์ทเนอร์คนขับลาลามูฟไม่เพียงแต่ขับเคลื่อนธุรกิจ แต่ยังขับเคลื่อนชีวิตของผู้คนและชุมชนให้ก้าวไปข้างหน้า
นายเบน ลิน กรรมการผู้จัดการ ลาลามูฟ ประเทศไทย กล่าวว่า “เบื้องหลังการจัดส่งทุกออร์เดอร์ของลาลามูฟ คือความทุ่มเทของพาร์ทเนอร์คนขับ ที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ SME และสร้างการเติบโตให้ชุมชน ความมุ่งมั่นของพวกเขาไม่ได้หยุดแค่การให้บริการขนส่งสินค้า แต่ยังช่วยสร้างความมั่นคงให้ครอบครัว และทำให้ความฝันของตัวเองเป็นจริง ลาลามูฟจะเดินหน้าพัฒนาแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนให้พาร์ทเนอร์คนขับประสบความสำเร็จทั้งในชีวิตส่วนตัวและการทำงานไปพร้อมกัน”
ลาลามูฟ แพลตฟอร์มให้บริการขนส่งด่วนและบริการรับ-ส่งผู้โดยสารแบบออนดีมานด์ เผยผลสำรวจจากพาร์ทเนอร์คนขับทั่วโลกพบว่า มากกว่า 75% ของพาร์ทเนอร์คนขับ เริ่มปรับรูปแบบการทำงานโดยการเข้าสู่เศรษฐกิจแพลตฟอร์มไปพร้อม ๆ กับการทำงานแบบดั้งเดิม สะท้อนบทบาทของแพลตฟอร์มที่ช่วยปลดล็อกโอกาสทางอาชีพใหม่ ๆ และชี้ให้เห็นว่ารูปแบบการทำงานที่ยืดหยุ่นของลาลามูฟช่วยให้พาร์ทเนอร์คนขับมีสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน ดูแลครอบครัว และบรรลุเป้าหมายส่วนตัวได้ดียิ่งขึ้น ปัจจุบัน รูปแบบการสร้างรายได้ผ่านแอปพลิเคชันกำลังกลายเป็นเทรนด์ที่น่าจับตามอง ลาลามูฟจึงทำการสำรวจความคิดเห็นจากพาร์ทเนอร์คนขับกว่า 9,000 คน จากหลากหลายประเทศทั่วโลก เพื่อนำข้อมูลเชิงลึกจากประสบการณ์จริงของพาร์ทเนอร์คนขับไปใช้ในการพัฒนาและยกระดับแพลตฟอร์มให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้มากขึ้น สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของลาลามูฟที่ต้องการมีส่วนร่วมและใกล้ชิดกับชุมชนพาร์ทเนอร์คนขับเพื่อเข้าใจถึงความต้องการและสนับสนุนระบบการทำงานให้มีประสิทธิภาพต่อไป
เศรษฐกิจแพลตฟอร์มได้กลายเป็นเทรนด์ที่โดดเด่นที่เปลี่ยนรูปแบบการจ้างงานแบบดั้งเดิม สู่การเปิดโอกาสให้ผู้คนมีอิสระในการทำงาน และมีทางเลือกในการสร้างรายได้ที่หลากหลายยิ่งขึ้น สำหรับประเทศไทยพบว่า 35% ของพาร์ทเนอร์คนขับลาลามูฟเคยทำงานประจำในออฟฟิศมาก่อน และอีก 19% มาจากภาคขนส่งหรือโลจิสติกส์ สะท้อนให้เห็นว่าการทำงานบนแพลตฟอร์มกำลังกลายเป็นทางเลือกใหม่สำหรับอดีตพนักงานออฟฟิศและผู้ที่ต้องการบริหารเวลาและรายได้ด้วยตนเอง การเป็นพาร์ทเนอร์คนขับกับลาลามูฟเปิดโอกาสให้ผู้คนจัดสรรเวลาทำงานได้อย่างอิสระตามแนวโน้มที่กำลังเปลี่ยนไปทั่วโลก โดยจากข้อมูลล่าสุดชี้ให้เห็นว่า 65% ของพาร์ทเนอร์คนขับเลือกทำงานกับลาลามูฟเพราะความยืดหยุ่นในการจัดตารางเวลา และอีก 47% ใช้ความยืดหยุ่นนี้เพื่อสร้างรายได้ควบคู่กับการดูแลครอบครัว ด้วยระบบที่ไม่มีข้อกำหนดเรื่องจำนวนชั่วโมงที่ต้องทำงานต่อวัน ส่งผลให้พาร์ทเนอร์สามารถทำงานและใช้ชีวิตได้อย่างสมดุล ตอบโจทย์แนวคิดการทำงานยุคใหม่ และช่วยเสริมศักยภาพของตลาดขนส่งให้เติบโต
ข้อมูลจากผลการสำรวจล่าสุดยังพบว่า 63% ของพาร์ทเนอร์คนขับใช้ลาลามูฟเป็นช่องทางสร้างรายได้เสริม ซึ่งมีส่วนช่วยสร้างเสถียรภาพทางการเงินและยกระดับคุณภาพชีวิตของครอบครัว โดยไม่ใช่แค่ตัวพาร์ทเนอร์คนขับเท่านั้นที่ได้รับประโยชน์ แต่ยังส่งผลดีต่อคนในครอบครัวอีกด้วย เนื่องจากกว่า 63% ของพาร์ทเนอร์มีครอบครัว และกว่า 2 ใน 3 มีบุตรที่ต้องดูแล ความยืดหยุ่นของแพลตฟอร์มลาลามูฟช่วยทำให้พวกเขาสามารถจัดสรรเวลาให้กับครอบครัวได้อย่างลงตัว ทั้งการรับ-ส่งบุตรไปโรงเรียน หรือทำภารกิจส่วนตัว พร้อมสร้างรายได้ไปพร้อมกัน สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่าลาลามูฟมีบทบาทสำคัญในการช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของทั้งพาร์ทเนอร์คนขับและครอบครัวให้ดียิ่งขึ้น

Go To Lead


เครือสหพัฒน์ ผนึกกำลัง DHL
ยกระดับอีคอมเมิร์ซและห่วงโซ่อุปทาน
นายพิภพ โชควัฒนา กรรมการบริษัท กรรมการบริหาร และกรรมการธรรมาภิบาลและบริหารความเสี่ยง บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPI เปิดเผยว่า จากความมุ่งมั่นของเครือสหพัฒน์ที่จะพัฒนาศักยภาพในการแข่งขันของตลาดอีคอมเมิร์ซ ที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ได้เล็งเห็นถึงความเป็นผู้นำด้านโลจิสติกส์ที่ขับเคลื่อนนวัตกรรมและความยั่งยืนในภูมิภาคของ DHL จึงได้ร่วมมือกันในเชิงกลยุทธ์ เพื่อยกระดับศักยภาพด้านอีคอมเมิร์ซและโลจิสติกส์ของเครือสหพัฒน์ ซึ่งการร่วมมือครั้งสำคัญในครั้งนี้ จะช่วยผลักดันการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซในเครือสหพัฒน์ ด้วยการเสริมความแข็งแกร่งด้านโลจิสติกส์และการขนส่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ และเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยส่งเสริมความสำเร็จของ BIGXSHOW และ FRIDAY FAIR-สองแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวเป็นครั้งแรกในงานสหกรุ๊ปแฟร์ที่ผ่านมา เราเชื่อมั่นว่าความเชี่ยวชาญระดับโลกและนวัตกรรมของ DHL ผสมผสานกับความเข้าใจบริบทท้องถิ่นของเครือสหพัฒน์ จะช่วยต่อยอดสู่ระบบโลจิสติกส์ที่มีความยืดหยุ่น ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและพร้อมรองรับอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งการมีฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งในประเทศ รวมกับพันธมิตรที่น่าเชื่อถือในระดับสากล จะเป็นเสาหลักสำคัญที่ทำให้เราเติบโตได้อย่างมั่นคง รวมถึงช่วยผลักดันการเติบโตทางธุรกิจในยุคดิจิทัลได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน
นายเฮอร์เบิต วงศ์ภูษณชัย กรรมการผู้จัดการและหัวหน้าภาคพื้นอินโดจีน บริษัท ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด และ นายเกียรติชัย พิตรปรีชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีเอชแอล อีคอมเมิร์ซ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวเสริมว่า “DHL มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ด้านโลจิสติกส์ระดับโลกกับเครือสหพัฒน์ ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจชั้นนำของประเทศไทย ความร่วมมือกันในครั้งนี้ สอดคล้องกับเป้าหมายของเราในการเร่งการเติบโตอย่างยั่งยืน และการเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ เราจะนำความเชี่ยวชาญด้านเครือข่ายทั่วโลก เทคโนโลยี และโซลูชันที่ครอบคลุมมาสนับสนุนในการขยายธุรกิจอีคอมเมิร์ซและเพิ่มประสิทธิภาพของห่วงโซ่อุปทาน เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ร่วมกัน ดีเอชแอล กรุ๊ป จะพัฒนาและสนับสนุนเครือสหพัฒน์ต่อยอดธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และขับเคลื่อนห่วงโซ่อุปทานหรือซัพพลายเชนภายใต้ของกรอบความร่วมมือในครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาความร่วมมือในโอกาสอื่นๆ อีกต่อไป”
ความร่วมมือในการผลักดันการต่อยอดธุรกิจอีคอมเมิร์ซระหว่างเครือสหพัฒน์และดีเอชแอลในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการพัฒนาธุรกิจอีคอมเมิร์ซภายในประเทศและระหว่างประเทศของกลุ่มธุรกิจในเครือสหพัฒน์ นับเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพของเครือสหพัฒน์ในการแข่งขันในตลาดอีคอมเมิร์ซที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และตอกย้ำบทบาทของ DHL ในฐานะผู้นำด้านโลจิสติกส์ที่ขับเคลื่อนนวัตกรรมและความยั่งยืนในภูมิภาค โดยความร่วมมือในครั้งนี้ จะครอบคลุมการดำเนินงานในหลายมิติ ได้แก่ การแลกเปลี่ยนความรู้: จัดกิจกรรมสัมมนาเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ด้านอีคอมเมิร์ซและห่วงโซ่อุปทาน ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ รวมถึงข้อกำหนดทางการขนส่ง
การส่งเสริมการขาย: ร่วมมือกันในกิจกรรมส่งเสริมการขายและสร้างการตระหนักรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการ การจัดการคลังสินค้า: ยกระดับความร่วมมือในการจัดการคลังสินค้าและการปรับแต่งการจัดการคำสั่งซื้อให้เหมาะสมกับความต้องการของกลุ่มธุรกิจ การนำเข้าและส่งออก: ยกระดับคุณภาพการให้บริการนำเข้าและส่งออกสินค้าระหว่างประเทศอย่างยั่งยืน ด้วยการเพิ่มคุณค่า คุณภาพ และประสิทธิภาพการบริการขนส่งแบบครบวงจร การพัฒนาธุรกิจออนไลน์: วิเคราะห์และพัฒนาการต่อยอดธุรกิจออนไลน์ในต่างประเทศผ่าน BigXShow และ Thailand Bestสิทธิประโยชน์พิเศษ: มอบสิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับบริษัทในเครือสหพัฒน์ สำหรับการนำเข้า-ส่งออกพัสดุระหว่างประเทศ รวมถึงเครื่องมือที่เป็นประโยชน์และเพิ่มประสิทธิภาพ การสำรวจโอกาสทางธุรกิจ: มีการหารือโอกาสทางธุรกิจระหว่างเครือสหพัฒน์กับหน่วยธุรกิจต่างๆ ของ DHL อย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมบริการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนอย่างครบวงจร

Go To Lead


[ENGLISH] 
  --  
iClickNews.com