Travel
Hot News: ททท. 'หนุน'Travel Tech Startup
http://www.tviclick.com
Home Page iClick News.com
Home
Print this webpage
Print
English Version
English
ททท. 'หนุน'Travel
Tech Startup
ททท.จัดกิจกรรม “TAT Travel Tech Startup Networking : Together for Future Travel” ภายใต้โครงการส่งเสริมนวัตกรรมเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. เปิดเผยว่า ททท. ให้ความสำคัญกับการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาเสริมสร้างศักยภาพของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในยุคดิจิทัล โดยเชื่อมั่นว่านวัตกรรมและเทคโนโลยีเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญที่จะช่วยยกระดับการท่องเที่ยวไทยสู่การเติบโตอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน เพราะทุกวันนี้การท่องเที่ยวกับเรื่องนวัตกรรมก็ถือเป็นเรื่องเดียวกัน เราอยู่กับโซเชียลมีเดีย อยู่กับออนไลน์เทคโนโลยีมาเป็นสิบปี ตั้งแต่คนยังไม่เชื่อกับการเติบโตของโซเชียลมีเดีย และได้เห็นพลังของข้อมูลข่าวสารเหล่านั้นแล้ว จนกระทั่งมาถึงเรื่อง AI ซึ่งเป็นเรื่องที่เราต้องใส่ใจ
ในส่วนของ ททท. เรามีเว็บไซต์ Amazing Thailand ที่ใช้อยู่ และมีแอปพลิเคชันที่ดำเนินการพัฒนาให้ดีขึ้น ซึ่งคำว่า Amazing นี้ได้กลายเป็นแบรนด์ เป็นภาพลักษณ์การจดจำของนักท่องเที่ยวไปแล้ว เราจึงต้องพัฒนาต่อไปทั้งในเรื่องข้อมูล แอปพลิเคชัน และจะต้องมีสิ่งที่เรียกว่า Amazing Thailand Innovation Gadgets ด้วย ททท. จึงมุ่งประสานความร่วมมือกับพันธมิตรทุกภาคส่วน ทั้งผู้ประกอบการท่องเที่ยวแบบดั้งเดิม และผู้ประกอบการท่องเที่ยวกลุ่มที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการดำเนินงาน (TAT Travel Tech Startup) เพื่อส่งเสริมการนำนวัตกรรมมาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว และเกิดการพัฒนาสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวมูลค่าสูง ซึ่งไม่เพียงช่วยสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวที่แตกต่าง แต่ยังเป็นกุญแจสำคัญในการเสริมขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศไทยบนเวทีโลกอีกด้วย
“Amazing Thailand Innovation Gadgets นี้ก็จะเกิดขึ้นได้จากผู้ร่วมโครงการนี้นั่นเอง รวมทั้งเราจะได้รับการสนับสนุนที่ดีจาก สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ เพราะฉะนั้น ททท. จะปล่อยเวทีนี้ให้ทุกคนได้คิดค้นที่จะทำให้การท่องเที่ยวดีขึ้นได้ด้วยนวัตกรรม แต่อย่าลืมว่า online ก็ต้องนำมาซึ่งความประทับใจที่ on-site ด้วยเช่นกัน” นางสาวฐาปนีย์กล่าวทิ้งท้าย
นายอัครวิชย์ เทพาสิต ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ททท. กล่าวว่า งานนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นการผลักดันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยให้เติบโตอย่างแท้จริง หัวใจสำคัญคือการนำความรู้ นวัตกรรม และเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มมูลค่าและยกระดับสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยว ตลอดจนสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่าง TAT Travel Tech Startup และผู้ประกอบการพื้นที่กลุ่มเป้าหมาย อาจจะนำไปสู่การพัฒนารูปแบบธุรกิจใหม่ๆ และการขยายตลาดธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยกิจกรรม “TAT Travel Tech Startup Networking : Together for Future Travel” ในครั้งนี้ ได้ต่อยอดนำผู้ประกอบการ Travel Tech Startup ทั่วประเทศที่ผ่านการคัดเลือกจากกิจกรรม TAT Travel Tech Startup ที่ ททท. ดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาแล้ว 3 รุ่น มาพบปะสร้างเครือข่ายพันธมิตร ทั้งกับกลุ่มผู้ประกอบการด้วยกันและหน่วยงานภาครัฐ เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ
ด้าน ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ เน้นย้ำความมั่นใจในการสนับสนุนและผลักดัน Travel Tech Startup ว่า ถ้าคุณมีโซลูชันที่ดี แต่ไม่มีเงินทุนไม่ใช่ปัญหา เราสามารถสนับสนุนทุนให้ได้ เพียงแต่ให้เรามี Global Mindset เข้าไว้ว่าโซลูชันของเราสามารถตอบโจทย์คนไทย คนต่างชาติ ขยายธุรกิจได้อย่างไรบ้าง เพราะเรื่อง Travel Tech เป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศไทย เพราะฉะนั้นท่านมีโอกาสสูงมากทั้งตลาดในเมืองไทย และตลาดต่างประเทศ เดี๋ยวเราจะจับมือกับ ททท. พาไปถึงต่างประเทศ เพราะฉะนั้นคิดให้ไกล ไปให้ถึง Global กัน เราพร้อมสนับสนุน
ในส่วนของ ดร.อัญชลิสา แต้ตระกูล (รักษาการ) ผู้อำนวยการโครงการ Travel Link สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) กล่าวถึงการใช้ Data ให้เกิดประโยชน์สูงสุดสำหรับ TAT Travel Tech Startup ไว้ว่า เราเป็นหน่วยงานรัฐ อยู่ใต้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เราเป็นหน่วยงานที่จะช่วยให้ทั้งประเทศขับเคลื่อนด้วย Data เราจึงมีหน้าที่รวบรวมข้อมูลสำหรับ ส่วนงานต่างๆ และโครงการที่เรารับผิดชอบมีชื่อว่า Travel Link ที่จะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวให้มาอยู่ในแพลตฟอร์มนี้ ไม่ว่าจะเป็นภาคผู้ประกอบการ Startup หรือภาคเอกชนรายใหญ่ก็สามารถมาใช้งานได้ เพื่อที่จะนำไปใช้ประโยชน์และไปพัฒนาต่อยอดอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของเราให้แข็งแกร่งมากขึ้น
นายสุรวุฒิ ศรีสถิต ผู้จัดการฝ่ายบริการเสริมและความสัมพันธ์ บริษัท Thai AirAsia & Thai AirAsia X ในฐานะผู้ประกอบการอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ได้กล่าวว่า เราให้ความสำคัญกับการสร้างนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ทดลองเทคโนโลยีใหม่ สนับสนุนไอเดียใหม่ และอย่าลืมว่า Big Data คือสิ่งสำคัญ และอยากให้ผู้ประกอบการเปิดใจยอมรับกับการเปลี่ยนแปลง มีแผนหนึ่ง แผนสองสำรองไว้เสมอ และคิดถึงผู้อื่นให้มากกว่าตัวเอง เพราะสิ่งสำคัญที่สุดในอุตสาหกรรมนี้คือนักท่องเที่ยว ที่เราจะต้องตอบโจทย์ความต้องการของเขาให้ได้
นายทัศวิท อินทสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท กอล์ฟดิกก์ จำกัด และ นายอานันท์ ประเสริฐรุ่งเรือง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง AIRPORTELs luggage storage and delivery ผู้เข้าร่วมโครงการ “TAT Travel Tech Startup Networking” ได้แชร์ประสบการณ์ในการต่อยอดธุรกิจไว้
นายทัศวิทเล่าว่า ในส่วนของตนจะเป็นแพลตฟอร์มการจองสนามกอล์ฟออนไลน์ได้ทั่วประเทศ ซึ่งการได้เข้าร่วมกิจกรรมกับ ททท. ก็ทำให้การเข้าหาสนามกอล์ฟต่างๆ ง่ายขึ้น เพราะมีพาวเวอร์มากขึ้น และมีแนวโน้มจะขยายไปในสนามกอล์ฟประเทศเพื่อนบ้านด้วย
ในส่วนนายอานันท์ กล่าวว่า เราเป็น Startup ที่ทำเกี่ยวกับกระเป๋าเดินทางเป็นหลัก ก็จะมีบริการรับฝากกระเป๋าตามจุดต่างๆ ของสนามบินและห้างสรรพสินค้า ส่วนอีกบริการหนึ่ง เช่น การขนส่งกระเป๋า จากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง มองว่าการเข้าร่วมกิจกรรมกับภาครัฐมีความท้าทายในเรื่องของเป้าหมายที่ชัดเจน ความโปร่งใส เพราะเราได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจังจากภาครัฐ ซึ่งเป็นเงินภาษีประชาชน ก็ต้องมีเป้าหมายให้เห็นเป็นรูปธรรมด้วย
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม Networking Session ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ Travel Tech Startup ที่ชนะการประกวดที่ผ่านมาและผู้ประกอบการ Travel Tech Startup ที่สนใจเข้าร่วมงาน ได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ และสร้างพันธมิตรทางธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการและหน่วยงานภาครัฐที่ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมนวัตกรรมและเทคโนโลยีของผู้ประกอบการในการดำเนินธุรกิจ
ทั้งนี้ กิจกรรม TAT Travel Tech Startup ได้มีการจัดแข่งขันผู้ประกอบการ Travel Tech Startup ที่นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ตอบโจทย์นักท่องเที่ยว และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมาอย่างต่อเนื่องจำนวน 3 รุ่น โดยผู้ประกอบการที่ชนะการแข่งขันได้รับโอกาสในการเสริมศักยภาพทางธุรกิจ และเข้าร่วมงานส่งเสริมการขายหรือกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวของ ททท. สำหรับกิจกรรมครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ผู้ประกอบการ Travel Tech Startup แพลตฟอร์มออนไลน์ และสื่อมวลชนเข้าร่วมงานกว่า 100 ราย นับเป็นอีกก้าวสำคัญของ ททท. ในการบูรณาการความร่วมมือทุกภาคส่วนเพื่อขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยสู่อนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน
ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารของ TAT Travel Tech Startup ได้ที่ Facebook Page : TAT Startup Thailand

Go To Lead


เวียตเจ็ทไทยแลนด์ เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
นายวรเนติ หล้าพระบาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเวียตเจ็ทไทยแลนด์ กล่าวว่า การขยายฝูงบินครั้งนี้ไม่เพียงแต่รองรับความต้องการเดินทางที่เพิ่มขึ้น แต่ยังเป็นการยกระดับศักยภาพของไทยในฐานะศูนย์กลางการบินและการท่องเที่ยวในภูมิภาค โดยเวียตเจ็ทไทยแลนด์มีการเติบโตด้านธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งในแง่รายได้ ปริมาณผู้โดยสาร และเครือข่ายเส้นทางบิน สะท้อนถึงศักยภาพการดำเนินงานที่แข็งแกร่งและความเชื่อมั่นจากผู้โดยสารและคู่ค้า โดยมุ่งมั่นนำเสนอการเดินทางที่สะดวกสบาย ราคาคุ้มค่า และตรงเวลา
“การเตรียมเปิดเส้นทางบินใหม่ๆ ที่ครอบคลุมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งเป็นแผนการขยายฝูงบินทั้งในระยะสั้นและกลาง เพื่อรองรับการเติบโตของสายการบินให้บริการ จะช่วยให้เวียตเจ็ทไทยแลนด์เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในตลาดโลว์คอสต์ที่รุนแรง และสร้างความพร้อมให้ไทยก้าวสู่การเป็นฮับการบินในภูมิภาค และที่สำคัญยังจะสร้างงานกว่า 4,000 - 5,000 ตำแหน่ง ครอบคลุมนักบิน พนักงานต้อนรับ พนักงานภาคพื้นดิน และฝ่ายวิศวกรรม ควบคู่ไปกับการยกระดับด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม”
พร้อมกันนี้นายวรเนติ กล่าวว่าในฐานะสายการบินยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรอยู่เสมอ โดยได้เปิดโอกาสให้ทั้งบัณฑิตจบใหม่ ผู้มีประสบการณ์ทำงาน รวมถึงผู้ที่มีความมุ่งมั่นในสายอาชีพด้านการบินได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร
ด้าน คุณปิ่นยศ พิบูลสงคราม รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการพาณิชย์ เสริมว่าตลอดปีที่ผ่านมา เวียตเจ็ทไทยแลนด์สามารถสร้างการเติบโตของผู้โดยสารได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยจุดแข็งด้านราคาที่เข้าถึงง่าย และตอบสนองความต้องการของนักเดินทางยุคใหม่
“เวียตเจ็ทไทยแลนด์สามารถรักษาอัตราการเติบโตของผู้โดยสารได้อย่างต่อเนื่อง แม้ต้องเผชิญการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดสายการบินราคา ซึ่งจุดแข็งของเราคือการมอบบริการคุณภาพในราคาที่เข้าถึงได้ ทำให้เรามีฐานลูกค้าที่เหนียวแน่นและสามารถขยายตลาดใหม่ได้อย่างมั่นคง”
ในปีนี้ เวียตเจ็ทไทยแลนด์เตรียมเปิดเส้นทางใหม่ รวมถึงเส้นทางกรุงเทพฯ–โซล (เดือนตุลาคม) กรุงเทพฯ–โกลกาตา ในเดือนพฤศจิกายน กรุงเทพฯ–โตเกียว (นาริตะ) ในเดือนธันวาคม กรุงเทพฯ–โอซาก้า (คันไซ) ในเดือนธันวาคม และกรุงเทพฯ–อาห์เมดาบัด ในเดือนธันวาคม เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นในตลาดเกาหลี ญี่ปุ่น และอินเดีย ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้เวียตเจ็ทไทยยังเตรียมมอบประสบการณ์การบินที่น่าประทับใจด้วยการให้บริการด้านความบันเทิงบนเที่ยวบิน (In-Flight Entertainment)
“ที่สำคัญไม่แพ้กัน สายการบินเวียตเจ็ทไทยแลนด์ยังคงพัฒนาความตรงต่อเวลาอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันก้าวขึ้นสู่อันดับ 4 ของสายการบินในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความสำเร็จครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราในการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพและการมอบบริการที่เป็นเลิศแก่ผู้โดยสาร”
รูปประกอบข่าว_คุณสญาดา เบญจกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายองค์กรสัมพันธ์.jpg
คุณสญาดา เบญจกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ กล่าวว่าเวียตเจ็ทไทยแลนด์ให้ความสำคัญกับการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจ ที่ไม่เพียงการสร้างความเติบโตเชิงเศรษฐกิจ แต่ยังต้องการสร้างสมดุลกับสิ่งแวดล้อมและสังคม พร้อมทั้งเป็นแรงผลักดันในการสนับสนุนการท่องเที่ยว
“เวียตเจ็ทไทยแลนด์ให้ความสำคัญกับการสร้างภาพลักษณ์องค์กรที่โปร่งใสและมีความรับผิดชอบต่อสังคม เราเดินหน้าจัดกิจกรรมอนุรักษ์ธรรมชาติและกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ทั้งโครงการด้านสิ่งแวดล้อม การศึกษา และการสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น รวมถึงร่วมมือกับภาครัฐและภาคเอกชนในการส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งทั้งหมดสอดคล้องกับนโยบาย ‘Fly Green’ ที่มุ่งลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมกันนี้สายการบินฯ ยังมุ่งเน้นการสร้างวัฒนธรรมองค์กรสีเขียวและส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการดูแลโลกอย่างยั่งยืนไปพร้อมกัน”
นอกจากนี้เวียตเจ็ทไทยแลนด์ประกาศตอกย้ำพันธกิจด้านความยั่งยืน โดยเดินหน้าศึกษาและส่งเสริมการใช้ Sustainable Aviation Fuel (SAF) ควบคู่กับการนำเครื่องบินรุ่นใหม่ที่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น A321neo และ Boeing 737-8 ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ถึง 15–20% เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม
เวียตเจ็ทไทยแลนด์วางเป้าหมายก้าวสู่การเป็นสายการบินที่มีเครือข่ายครอบคลุมภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เชื่อมต่อเมืองรองของไทยกับตลาดต่างประเทศโดยตรง เสริมบทบาทของไทยในฐานะฮับการบินและท่องเที่ยว พร้อมต่อยอดโอกาสทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค รวมทั้งพัฒนาความร่วมมือกับภาครัฐและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจท้องถิ่น

Go To Lead


[ENGLISH] 
  --  
iClickNews.com