|
กรุงเทพประกันภัย ตั้งเป้าเบี้ยฯ 30,000 ล้านบาท
ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในปี 2565 ซึ่งเเม้จะสามารถขยายงานด้านเบี้ยประกันภัยรับรวมได้เกินเป้าหมาย โดยเติบโตจากปี 2564 ร้อยละ 8.8 หรือคิดเป็นเบี้ยประกันภัยรับรวม 26,676.3 ล้านบาท และมีรายได้สุทธิจากการลงทุน 6,254.6 ล้านบาท เเต่เนื่องด้วยภาระผูกพันในการจ่ายเคลมสินไหมทดเเทนประกันภัยโควิด-19 ที่สิ้นสุดลงในช่วงไตรมาสที่ 2 ส่งผลทำให้บริษัทฯ ยังมีผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 638.4 ล้านบาท โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นงวดสุดท้ายในอัตราหุ้นละ 5.00 บาท รวมทั้งปี 15.50 บาท บนพื้นฐานของการมีความมั่นคงทางการเงิน เเละมีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน (CAR) สูงกว่าเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด โดยมีอัตราส่วนอยู่ที่ประมาณร้อยละ 179.4 (ณ 30 ก.ย. 65) พร้อมยืนหยัดความแข็งแกร่งด้วยการรักษาอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงินในระดับสูงหรือ Credit Rating A- (Stable) (ณ พ.ย. 65) โดย Standard & Poor's (S&P) สถาบันการจัดอันดับทางการเงินชั้นนำของโลก
สำหรับเเนวโน้มของธุรกิจประกันวินาศภัยปี 2566 กรุงเทพประกันภัยประเมินว่าภาพรวมธุรกิจ จะได้รับผลบวกจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศที่มีเเนวโน้มจะเติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้า หลังผ่านพ้นช่วงวิกฤติการเเพร่ระบาดของโควิด-19 เเละกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ทั่วโลกกลับมาดำเนินการได้ตามปกติ โดยธุรกิจประกันวินาศภัยจะได้รับประโยชน์จากยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ในปี 2566 ที่คาดว่าจะเติบโตเป็นบวกต่อเนื่องเป็นปีที่สอง เเละการขยายตัวของประกันภัยที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจท่องเที่ยว หลังจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด ทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติเเละชาวไทยที่เดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ รวมถึงยังมีนโยบายจัดเก็บค่าธรรมเนียมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยในอัตรา 150-300 บาทต่อคน ซึ่งคาดว่าค่าธรรมเนียมส่วนหนึ่งจะนำมาเป็นเบี้ยประกันภัยสุขภาพของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ด้านตลาดการรับประกันภัยต่อ ยังคงมีการปรับอัตราเบี้ยประกันภัยขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากภัยธรรมชาติที่ทวีความรุนเเรงและมีความถี่สูงขึ้นจากปัญหา Climate Change ตลอดจนอัตราเงินเฟ้อที่ส่งผลให้ต้นทุนการชดใช้ค่าสินไหมทดเเทนเพิ่มสูงขึ้น บริษัทประกันภัยจึงมีโอกาสได้รับเบี้ยประกันภัยที่สูงขึ้นตามไปด้วย ขณะเดียวกันการเเข่งขันด้านราคามีเเนวโน้มลดลง โดยเฉพาะประกันภัยรถยนต์ ภายหลังจากที่บริษัทประกันภัยหลายแห่งต้องถูกปิดกิจการเเละประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนักในปีที่ผ่านมา ผนวกกับการเตรียมรับมือกับอัตราค่าสินไหมทดเเทนของประกันภัยรถยนต์ที่มีเเนวโน้มจะเริ่มกลับมาสูงขึ้น เมื่อการเดินทางเเละการใช้ชีวิตของผู้คนกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
จากปัจจัยที่สนับสนุนข้างต้น สมาคมประกันวินาศภัยไทยประเมินว่า ธุรกิจประกันวินาศภัยในปี 2566 คาดว่าจะมีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงขยายตัวอยู่ในช่วงร้อยละ 4.5 - 5.0 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า ท่ามกลางปัจจัยที่ท้าทายหลายประการ เช่น กำลังซื้อของผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ปรับเพิ่มขึ้น เเละอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง รวมถึงยอดสินเชื่อที่อยู่อาศัยปล่อยใหม่ที่อาจได้รับผลกระทบจากการยกเลิกผ่อนปรนมาตรการสินเชื่อที่อยู่อาศัยต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV) ของธนาคารแห่งประเทศไทย เเละราคาบ้านอยู่อาศัยที่ปรับเพิ่มขึ้นจากต้นทุนการก่อสร้างที่สูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อปริมาณเบี้ยประกันอัคคีภัย เช่นเดียวกับประกันภัยทางทะเลเเละขนส่งที่ย่อมได้รับผลกระทบจากการส่งออกของประเทศที่หดตัวลงตามการชะลอของเศรษฐกิจโลก ขณะที่ประกันภัยสุขภาพ เเม้จะได้รับผลบวกจากการที่ผู้บริโภคตระหนักถึงความเสี่ยงด้านการเจ็บป่วยเเละภาระค่ารักษาพยาบาลมากขึ้น เเต่บริษัทประกันภัยมีเเนวโน้มจะเพิ่มความระมัดระวังในการขยายงานประเภทนี้มากขึ้น ภายหลังเริ่มบังคับใช้มาตรฐานใหม่ของการประกันภัยสุขภาพ ส่งผลให้ความเสี่ยงของบริษัทประกันภัยในการรับประกันจะเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย
Year of Resilience towards Sustainable Growth ปีแห่งการพลิกฟื้นธุรกิจ สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน แม้เศรษฐกิจโลกจะยังมีความเปราะบาง แต่ก็ได้ผ่านพ้นแรงกระแทกใหญ่ๆ ไปแล้ว จึงกลายเป็นความท้าทายที่มาพร้อมกับโอกาส เปรียบเสมือนช่วงเวลาแห่งการพลิกฟื้นประสิทธิภาพสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน โดยปีนี้ถือเป็น Year of Resilience ที่องค์กรจะสะท้อนกลับไปสู่เป้าหมายที่ไกลกว่า บริษัทฯ พร้อมที่จะกลับไปสู่จุดที่แข็งแกร่งและมั่นคงยิ่งกว่าเดิม ผ่านการเรียนรู้จากวิกฤติเพื่อให้เกิดการพัฒนาและปรับตัวให้ดียิ่งขึ้น โดยยึดหลักสร้าง ดุลยภาพ ในการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพและการขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อความยั่งยืนในทุกมิติ (ESG) โดยคำนึงถึงหลักธรรมาภิบาล ส่งเสริมการมีคุณภาพชีวิตที่ดีของลูกค้า คู่ค้า พนักงาน ผู้ถือหุ้น พร้อมมุ่งทำประโยชน์เพื่อชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม
ในปี 2566 นี้ กรุงเทพประกันภัยตั้งเป้าหมายเบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 30,000 ล้านบาท เติบโตที่ร้อยละ 12.5 แบ่งเป็นเบี้ยประกันภัยรถยนต์ประมาณ 13,096 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยที่ไม่ใช่ประกันภัยรถยนต์หรือ Non-Motor ประมาณ 16,904 ล้านบาท ด้วยกลยุทธ์ที่แตกต่างและความมุ่งมั่นเพื่อยกระดับการบริการให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น ดังนี้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ ให้มากกว่า เเละความคุ้มครอง พิเศษมากขึ้นขยายความคุ้มครองให้ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ผ่านการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อย่างรับผิดชอบ ปรับกระบวนการคิดและการออกแบบความคุ้มครองให้สอดคล้องกับบริบทสังคมยุคใหม่ที่มีการเปลี่ยนเเปลงอยู่ตลอดเวลา
Go To Lead
|
เชือด นายหน้าประกันภัย หลอกขายประกันภัยโควิด-19 แบบเจอ จ่าย จบ
ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า สำนักงาน คปภ. เป็นหน่วยงานของรัฐมีบทบาทหน้าที่ในการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย รวมถึงการให้ความคุ้มครองสิทธิประโยชน์ด้านประกันภัยกับประชาชน ซึ่งการกระทำของบุคคลดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการนำระบบประกันภัยเข้าไปบริหารความเสี่ยงภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงได้สั่งการให้สายตรวจสอบคนกลางประกันภัย สำนักงาน คปภ. ทำการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับใบอนุญาตของผู้ถูกจับกุม พบว่า มีใบอนุญาตเป็นนายหน้าประกันวินาศภัยและมีใบอนุญาตเป็นตัวแทนประกันชีวิตและใบอนุญาตยังไม่หมดอายุ จึงได้สั่งการให้สายกฎหมายและคดี สำนักงาน คปภ. ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งปรากฏข้อเท็จจริงว่า นายหน้าประกันภัยรายนี้ ได้ยอมรับกับพนักงานเจ้าหน้าที่ สำนักงาน คปภ. ว่าได้รับเงินค่าเบี้ยประกันภัยจากผู้เอาประกันภัยและไม่ได้นำส่งให้บริษัทประกันภัยจริง ประกอบกับได้รับสารภาพกับเจ้าพนักงานตำรวจตามบันทึกการจับกุมของสถานีตำรวจภูธรดอนหัวฬ่อ จังหวัดชลบุรี ลงวันที่ 8 มีนาคม 2566 แล้ว ดังนี้ การกระทำดังกล่าวของนายหน้าประกันภัยรายนี้ จึงเป็นการดำเนินงานที่ก่อหรืออาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เอาประกันภัย ผู้รับประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัย หรือประชาชน อันอาจเป็นความผิดตามมาตรา 76/1 (6) แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562 นายทะเบียนจึงได้มีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตเป็นนายหน้าประกันวินาศภัยและใบอนุญาตเป็นตัวแทนประกันชีวิตแล้ว ทั้งนี้ผู้ที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตรายดังกล่าวจะไม่สามารถกระทำการเป็นตัวแทน/นายหน้าประกันภัยหรือขอรับใบอนุญาตใหม่ได้ภายใน 5 ปี นับแต่วันที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาต หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
สำหรับความผิดที่เข้าข่ายการฉ้อฉลประกันภัย ตามมาตรา 108/3 แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2562 ที่ระบุว่า ผู้ใดโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการชักชวน ชี้ช่อง หรือจัดการให้ผู้อื่นนั้นทำสัญญาประกันภัยกับบริษัท แต่ไม่ดำเนินการให้มีการทำสัญญาประกันภัยเกิดขึ้น และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สามทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินสามแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อยู่ระหว่างประสานพนักงานสอบสวนเพื่อขอเอกสารหลักฐานเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าสำนักงาน คปภ. ในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย รวมถึงการให้ความคุ้มครองสิทธิประโยชน์ด้านประกันภัยกับประชาชน จะไม่นิ่งเฉยต่อบุคคลใด ๆ ที่สร้างความเสียหายและบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อระบบประกันภัยไทย โดยสำนักงาน คปภ. จะดำเนินการตามกฎหมายโดยเคร่งครัดในทุกมิติ นอกจากนี้หากมีตัวแทนหรือนายหน้าประกันวินาศภัยมาเสนอขายผลิตภัณฑ์ประกันภัย ขอให้ประชาชนตรวจสอบใบอนุญาตเป็นตัวแทนหรือนายหน้าประกันวินาศภัยได้ที่ www.oic.or.th และหากมีการชำระเบี้ยประกันภัยจะต้องได้รับเอกสารแสดงการรับเงินของบริษัททุกครั้ง ทั้งนี้ หากพบเห็นพฤติกรรมการหลอกลวงด้านประกันภัยให้รีบแจ้งข้อมูลไปยังสำนักงาน คปภ. โดยตรงผ่านสายด่วน คปภ. 1186
อนึ่ง จากกรณี เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล ชุดปฏิบัติการ 5 เข้าจับกุม นายหน้าประกันวินาศภัยรายหนึ่ง โดยถูกจับกุมตัวได้ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ตามหมายจับศาลแขวงชลบุรี ที่ 292/2565 ลงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 ในความผิดฐานฉ้อโกง กระทำการโดยเจตนาทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวง และกระทำการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยกระทำต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ซึ่งในเบื้องต้นนายหน้าประกันวินาศภัยรายดังกล่าว ได้ให้การรับสารภาพต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรดอนหัวฬ่อ จังหวัดชลบุรี ว่าได้กระทำความผิดจริง ด้วยการเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยโควิด-19 แบบเจอ จ่าย จบ ให้แก่ผู้เอาประกันภัยผ่านแอปพลิเคชันเฟซบุ๊ก แต่ไม่ดำเนินการให้มีการทำสัญญาประกันภัยเกิดขึ้นแต่อย่างใด
Go To Lead
|
"ประกันภัยไทยวิวัฒน์" รณรงค์ขับขี่ปลอดภัย มอบสิทธิ์ตรวจเช็กสภาพรถยนต์
นายเทพพันธ์ อัศวะธนกุล รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทจัดโครงการ "Caring is Giving #ให้ด้วยใจให้ด้วยรัก ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนคนไทย ควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจให้ดียิ่งขึ้นภายใต้แนวคิด คิดเผื่อเพื่อทุกชีวิต" ในทุกมิติ โดยเฉพาะในด้านความรับผิดชอบต่อสังคม รวมถึงการรณรงค์และส่งเสริมสิ่งที่จะก่อให้เกิดการพัฒนาซึ่งนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดี และลดความเสี่ยงต่อสังคมในอนาคต จึงขอเป็นอีกหนึ่งเสียงในการร่วมรณรงค์และส่งเสริมให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนเตรียมความพร้อมก่อนการเดินทางช่วงเทศกาลหยุดยาว หวังช่วยลดอุบัติเหตุในระยะยาว เพื่อให้ประชาชนได้ตื่นตัวในการเตรียมความพร้อมในการขับขี่ ทั้งสภาพรถยนต์และคนขับ รวมถึงตระหนักถึงความเสี่ยง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุ ที่อาจจะก่อให้เกิดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินที่ไม่คาดคิดในการเดินทางช่วงเทศกาลหยุดยาว
โดยในปี 2566 บริษัทฯ เดินหน้าต่อยอดการส่งมอบสิ่งดีๆ คืนสู่สังคม ผ่านโครงการ "Caring is Giving #ให้ด้วยใจให้ด้วยรัก มอบสิทธิ์บริการตรวจเช็กสภาพรถยนต์ ที่ Autobacs ทุกสาขา จำนวน 500 สิทธิ์ ตลอดระยะเวลาโครงการให้ประชาชนคนไทย ที่มีการวางแผนจะเดินทางในช่วงหยุดยาว เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทาง โดยแบ่งระยะโครงการเพื่อให้ประชาชนได้ลงทะเบียนรับสิทธิ์ ออกเป็น 5 ช่วงก่อนวันหยุดยาว ดังนี้
รอบที่ 1 เตรียมตัวก่อนเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ ลงทะเบียน วันที่ 25 31 มีนาคม 2566 จำนวน 100 สิทธิ์*
รอบที่ 2 เตรียมตัวก่อนเดินทางช่วงวันหยุดยาว 28 -30 ก.ค. 66 ลงทะเบียน วันที่ 1-15 กรกฎาคม 2566 จำนวน 100 สิทธิ์*
รอบที่ 3 เตรียมตัวก่อนเดินทางช่วงวันหยุดยาว 12-14 ส.ค. 66 ลงทะเบียน วันที่ 25 -31 กรกฎาคม 2566 จำนวน 100 สิทธิ์*
รอบที่ 4 เตรียมตัวก่อนเดินทางช่วงวันหยุดยาว 13 -15 ต.ค. 66 ลงทะเบียน วันที่ 25-31 กันยายน 2566 จำนวน 100 สิทธิ์*
รอบที่ 5 เตรียมตัวก่อนเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ ลงทะเบียน วันที่ 1-15 ธันวาคม 2566 จำนวน 100 สิทธิ์*
ผู้ที่สนใจลงทะเบียนสามารถติดตามรายละเอียด ผ่านช่องทาง www.thaivivat.co.th หรือคลิก https://thaivivat.info/3FTxVoJ หรือสอบถามรายละเอียดผ่าน Facebook Page ประกันภัยไทยวิวัฒน์ หรือ LINE Official :Thaivivat Insurance ( LINE ID : @thaivivat)
Go To Lead
|
AXA Smart Traveller Plus
นางสาวปวีณา เขมะรังสรรค์ ผู้อำนวยการสายงานบริหารลูกค้า บริษัท แอกซ่าประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ช่วงเวลาที่การเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศกลับมาอย่างคึกคัก อ้างอิงจากผลสำรวจของวีซ่าเผยถึงประเทศจุดหมายปลายทางในฝันสูงสุด 5 อันดับแรกในปี 2566 ของนักเดินทางชาวไทย ได้แก่ 1. ญี่ปุ่น 2. เกาหลีใต้ 3. นิวซีแลนด์ 4. สิงคโปร์ และ 5. สหราชอาณาจักร แอกซ่าเข้าใจในทุกความกังวลของลูกค้าที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการท่องเที่ยวที่ต่างประเทศ และเพื่อความอุ่นใจตลอดการเดินทาง อยากแนะนำให้ลูกค้าพิจารณาประกันการเดินทางต่างประเทศ แอกซ่า สมาร์ททราเวลเลอร์ พลัส ซึ่งสามารถตอบโจทย์ในเรื่องความกังวลต่างๆ ของนักเดินทางได้อย่างครบครันและครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุ การเจ็บป่วย หรือกระเป๋าเดินทางโดนปล้น เป็นต้น ด้วยความคุ้มครองสูงสุดถึง 5 ล้านบาท และค่ารักษาพยาบาลสูงสุดถึง 4 ล้านบาท แอกซ่าพร้อมให้ความคุ้มครองและความเชื่อมั่นกับลูกค้า พร้อมสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดในทุกช่วงเวลา โดยผลิตภัณฑ์นี้ลูกค้าสามารถซื้อได้ง่ายด้วยตนเองตลอด 24 ชม. ผ่านทางเว็บไซต์ของแอกซ่า axa.co.th พร้อมรับกรมธรรม์อิเล็กทรอนิกส์ (e-policy) ได้ทันทีทางอีเมล แอกซ่าให้ความสำคัญกับการสร้างการรับรู้แบรนด์ไปในวงกว้างและต้องการเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น จึงได้เปิดตัวแคมเปญสื่อโฆษณานอกบ้าน (Out of Home) เพื่อโปรโมทประกันภัยการเดินทางต่างประเทศ ผ่านจอแอลอีดี 72 จอ ใต้สถานีบีทีเอสรวม 21 สถานี และจอแอลซีดีภายในรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสุขุมวิทและสายสีลม จำนวน 47 ขบวน ตลอดระยะเวลา 1 เดือนเต็ม ตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 15 เมษายน 2566 หรือสามารถรับชมสื่อโฆษณานอกบ้านของแอกซ่าได้ที่ช่องทางยูทูป https://youtu.be/4LC1_EnT27s
แอกซ่า สมาร์ททราเวลเลอร์ พลัส เปรียบเสมือนเพื่อนร่วมทางที่สมบูรณ์แบบที่ช่วยให้ลูกค้าอุ่นใจและเพิ่มความมั่นใจในการเดินทางท่องโลก แผนประกันภัยนี้ยังมีในส่วนของบริการช่วยเหลือฉุกเฉินทางการแพทย์และการเคลื่อนย้ายกลับประเทศไทย เชื่อมั่นได้ในความเป็นแบรนด์ประกันระดับโลกของแอกซ่า และใช้สมัครวีซ่าเชงเก้น (Schengen Visa) ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ axa.co.th หรือสายด่วนแอกซ่า (AXA hotline) โทร.02-118-8111แอกซ่าประกันภัยพร้อมดูแลลูกค้าในการวางแผนและเตรียมความพร้อมสำหรับการเดินทางอย่างอุ่นใจและมั่นใจไปกับ แอกซ่า สมาร์ททราเวลเลอร์ พลัส ที่จะทำให้ลูกค้าเพลิดเพลินตลอดทริปการเดินทาง ด้วยความคุ้มครองอย่างครอบคลุมที่แอกซ่าพร้อมมอบให้ตั้งแต่ก้าวแรกที่ออกจากบ้าน
Go To Lead
|
เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ มอบฟรีประกันภัยอุบัติเหตุ 100,000 บาท รับสงกรานต์
เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ฉลองเทศกาลสงกรานต์ มอบสิทธิพิเศษให้ลูกค้าคนสำคัญ กับกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุมูลค่าสูงสุด 100,000 บาท ฟรี เดินทางอุ่นใจ ปลอดภัย เที่ยวสนุกในวันปีใหม่ไทย ไปกับเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ พร้อมขอรับสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึงวัน 5 เมษายน 2566 ได้ที่แอปพลิเคชัน GEN 365
สำหรับกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุ เป็นความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ สายตา หรือทุพพลภาพถาวร วงเงินคุ้มครองสูงสุดถึง 100,000 บาท* โดยลูกค้าเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ที่สนใจสามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ฟรี ผ่านแอปพลิเคชัน GEN 365 หรือ คลิก >> http://bit.ly/3nlOYti ตั้งแต่วันนี้ ถึง 5 เมษายน 2566 ได้รับความคุ้มครอง ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 6 - 30 เมษายน 2566 สงวนสิทธิ์ให้เฉพาะลูกค้าประกันเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ที่เป็นสมาชิก GEN 365 เท่านั้น
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์เจนเนอราลี่ โทร 1394 ในวันและเวลาทำการ จันทร์ - เสาร์ เวลา 8:30 - 20:00 น. ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ หรือ ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Generali Thailand หรือ LINE Official Account @GeneraliThailand
*เงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
Go To Lead
|
[ENGLISH]
|