Finance/share
Hot News: KBTG บุกยุค Agentic AI
http://www.tviclick.com
Home Page iClick News.com
Home
Print this webpage
Print
English Version
English
KBTG บุกยุค Agentic AI
KBTG รุก AI 'เล็ง'เป้าหมายใหม่ปี 2568 ภายใต้ยุทธศาสตร์ Human-First x AI-First Transformation เน้นการพัฒนาบุคลากรและการใช้เทคโนโลยี AI เพื่อเพิ่มขีดความสามารถขององค์กรและสร้างประโยชน์ให้แก่สังคมไทย ตามแนวคิด “KBTG AI For Thailand” พร้อมตั้งเป้าจะสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจมากกว่า 10,000 ล้านบาทภายใน 5 ปีข้างหน้า
นายเรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป เปิดเผยว่า ตลอดปี 2567 ทาง KBTG ได้บรรลุความสำเร็จด้าน AI ในหลายมิติ เริ่มตั้งแต่การวิจัยและพัฒนานวัตกรรม AI เช่น AINU, THaLLE, Future You, คู่คิด, AI-Enabled VDO Analytics, Document OCR ไปจนถึงการพัฒนา AthenaMind แพลตฟอร์มสร้าง AI Agent หรือโมเดล AI เฉพาะทางสำหรับใช้งานภายในองค์กร โดย AI Agent ตัวแรกที่ได้มีการเปิดให้พนักงาน KBTG ใช้งานเป็นที่เรียบร้อยคือ HR Chat Agent ช่วยตอบคำถามและให้ข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ของพนักงาน เช่น ประกันกลุ่ม บัญชีค่าใช้จ่าย กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และการลา
KBTG ยังเป็นองค์กรไทยหนึ่งเดียวที่ได้รับรางวัล The Innovators 2024 จาก Global Finance ในสาขา Compliance/Risk Innovation: Best eKYC Innovation to Minimize Facial Fraud ผ่านผลงานด้าน AI อย่าง Face Liveness Detection ที่มีการนำไปใช้ในแอปพลิเคชันต่าง ๆ ของธนาคารกสิกรไทย และให้บริการเชิงพาณิชย์ผ่าน AINU อีกทั้งมีการสร้างพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนานวัตกรรมและงานวิจัยด้านเทคโนโลยี AI ทั้งกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ), สมาคมปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย (AIAT), AI Singapore, Google Research, MIT Media Lab และ AI Fund รวมถึงการได้รับคัดเลือกตีพิมพ์งานวิจัยในงานประชุมนานาชาติด้าน NLP ที่ดีที่สุดในโลกอย่าง The 62nd Annual Meeting of the Association for Computational Linguistics (ACL 2024) มีการตีพิมพ์ผลงานในวารสารนานาชาติรวมทั้งหมด 30 ฉบับ แบ่งเป็น Rank A* 2 ฉบับ และ Rank A 5 ฉบับ ที่ถูกนำไปต่อยอดสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกด้วย AI การยกระดับ eKYC ด้วย Computer Vision และการตอบคำถามลูกค้าแบบเรียลไทม์ผ่าน Chatbot โดย NLP
ปี 2568 เทรนด์ AI ที่จะเข้ามามีบทบาทประกอบไปด้วย 3 เทรนด์ คือ 1. AI for Human Intelligence การใช้ AI เพื่อช่วยในการตัดสินใจและสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจ (AI-Driven Business Impact) 2. AI Agent โมเดล AI เฉพาะทางที่สามารถทำงานและตัดสินใจแบบ End-to-end ได้อย่างแม่นยำ 3. AI Guardrails การใช้งาน AI อย่างมีความรับผิดชอบเพื่อลดความเสี่ยง ผ่านการสร้างความตระหนักรู้และการกำกับดูแลที่มีความครอบคลุม แต่ยังคงมีความยืดหยุ่น
โดยเทคโนโลยีที่จะเป็นเครื่องมือสำคัญของ KBTG คือ Agentic AI หรือโมเดล AI ที่ไม่เพียงแค่สามารถปฏิบัติการได้เอง แต่ยังประสานงานและสั่งการ AI ตัวอื่น ๆ เพื่อทำงานซับซ้อนได้มากขึ้น สำหรับในปีที่จะถึงนี้ KBTG จะมุ่งเน้นการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และ AI โดยยังคงวางมนุษย์เป็นศูนย์กลาง ผ่าน 3 เรื่องหลัก ได้แก่
Agentic Platformization การสร้างแพลตฟอร์มใหม่เพื่อจัดการ Agent ให้ง่าย สะดวก และรวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมทำงานร่วมกันกับมนุษย์ได้ ยกตัวอย่างเช่น AthenaMind แพลตฟอร์มสร้าง AI Agent ที่ KBTG พัฒนาใช้เองภายในองค์กร เปรียบเสมือน AI Agent Factory ช่วยสร้าง AI Agent เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในแต่ละส่วนงานของ KBTG ซึ่งปัจจุบันองค์กรกำลังอยู่ในระหว่างการวางแผนพัฒนา AI Agent สำหรับหน่วยงานส่วนอื่น ๆ เช่น PDPA Chat Agent และ Regulatory Chat Agent
Agentic Orchestration การสร้างและออกแบบกระบวนการใหม่ (Operation Workflow) เพื่อให้ AI Agent กับมนุษย์ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจได้ เช่น เบื้องต้นมีการนำ AI Coding Assistant มาใช้ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการทำงานของ Developer โดยสามารถลดเวลาการทำงานของ Developer เบื้องต้นได้ไม่ต่ำกว่า 20% และมีการสร้างโค้ดด้วย AI ไปแล้ว 500,000 Line of Code ก้าวต่อไปคือการเพิ่มความสามารถจาก AI Coding Assistant ไปเป็น AI Coding Agent ซึ่งจะมีความสามารถเปรียบเสมือน Junior Developer ที่สามารถเขียนโค้ดได้ตั้งแต่ต้นจนจบจากการให้ Requirement ที่ชัดเจน ช่วยลดระยะเวลาในการเขียนโค้ด และทำให้ Software Development Life Cycle รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
Agentic Humanization การเตรียมความพร้อมของคนทั้งในด้านแนวคิด ทักษะ และวัฒนธรรมการทำงานที่เปิดกว้าง พัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถด้าน AI มากยิ่งขึ้น สร้างสิ่งที่เรียกว่า Human-AI Workforce Integration เพื่อส่งเสริมการผสมผสานเทคโนโลยี AI เข้ากับการทำงานของพนักงานในทุก ๆ วัน โดยปัจจุบัน KBTG ได้บรรลุเป้าหมาย 100% ด้าน AI Literacy สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับ AI ให้พนักงานทุกคน มีการสร้างชมรม Machine Learning, AI, Data Analytics (M.A.D. Guild) และกลุ่มผลักดันการใช้งาน AI อย่างแพร่หลาย (KBTG Democratization of AI: K-DAI Council) เพื่อจะมุ่งทำ Human Transformation พัฒนาบุคลากรให้สามารถดึงศักยภาพสูงสุดของตัวเอง โดย AI จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยปลดล็อกและนำพาไปสู่เป้าหมายที่วางไว้
ทั้งนี้ KBTG ตั้งเป้าจะสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจมากกว่า 10,000 ล้านบาทภายในปี 2572 ด้วยการขับเคลื่อนองค์กรสู่การเป็น AI-Infused Organization ปรับกระบวนการทำงานภายในองค์กร ให้ AI เข้ามามีส่วนร่วมและผสมผสานกับการทำงานของพนักงานในทุกจุด พร้อมทั้งขับเคลื่อนการสร้าง AI-Driven Innovations เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและเพิ่มขีดความสามารถให้กับองค์กร รวมถึงขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยสู่การเป็นผู้นำในระดับภูมิภาค ด้วยการนำงานวิจัยด้าน AI มาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับสังคมและประเทศ เช่น AI เพื่อการศึกษา AI เพื่อเป็นที่ปรึกษาสำหรับเยาวชน และ AI เพื่อการแพทย์ ตามแนวคิด “KBTG AI For Thailand” ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรที่มีและที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป

Go To Lead


ศูนย์วิจัยกสิกรไทย 'ชี้" จีดีพีปี 2568 โต 2.4%
นายบุรินทร์ อดุลวัฒนะ กรรมการผู้จัดการ และ Chief Economist บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า การกลับมาอีกครั้งของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้สร้างความไม่แน่นอนขึ้นมาต่อการลงทุนและการค้าโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นโยบายการขึ้นภาษีนำเข้าที่ต้องรอความชัดเจนในต้นปีหน้า ก่อให้เกิดความกังวล ว่า เศรษฐกิจโลกจะซบเซาเหมือนช่วงทศวรรษ 1930 นอกจากนั้น นโยบายอเมริกาเฟิร์สท์ จะทำให้มีการเปลี่ยนระเบียบโลก (Global Order) สร้างความเสี่ยงต่อองค์กรระหว่างประเทศ อย่างเช่น WTO และ NATO ได้
นางสาวณัฐพร ตรีรัตน์ศิริกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ขยายความว่าในปี 2568 เศรษฐกิจไทยคาดว่าจะเติบโตที่ 2.4% ช้าลงกว่าปี 2567 เล็กน้อยที่คาดว่าจะขยายตัว 2.6% จากแรงส่งจากการท่องเที่ยวที่ลดลงตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าใกล้ระดับก่อนโควิด เช่นกันกับส่งออกที่คาดว่าจะโตช้าลงจากผลกระทบสงครามการค้า ทั้งทางตรงผ่านตลาดส่งออกสหรัฐฯ และทางอ้อมผ่านตลาดอื่นๆ ที่ต้องแข่งขันกับสินค้าจีน อย่างไรก็ตาม การลงทุนภาครัฐขยายตัวดีกว่าปีที่ผ่านมาจากเม็ดเงินเบิกจ่ายงบประมาณที่ต่อเนื่อง ในขณะที่การลงทุนเอกชนปรับตัวดีขึ้นจากปี 2567 ที่หดตัว สอดคล้องไปกับ FDIs ที่เข้ามาในอุตสาหกรรมยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ ความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจไทยยังสูง จากความแน่นอนของสงครามการค้า เศรษฐกิจหลักของโลกชะลอตัวลงโดยเฉพาะจีน และภาคการผลิตของไทยที่เจอภาวะการแข่งขันสูงจากสินค้าจีนท่ามกลางขีดความสามารถที่ลดลง
นางสาวเกวลิน หวังพิชญสุข รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มองว่า ในปี 2568 สถานการณ์อุตสาหกรรมไทย คงจะไม่ดีขึ้นได้มากนัก ท่ามกลางหลายปัจจัยกดดัน ทั้งสงครามการค้าภายใต้ทรัมป์ 2.0 ซึ่งจะมีผลต่อการส่งออกและการผลิต มาตรการภาครัฐบางเรื่องที่อาจกระทบต้นทุน และประเด็นเชิงโครงสร้างที่ยังทำให้การใช้จ่ายเป็นไปด้วยความระมัดระวัง ขณะที่ กลุ่มที่ยังฟื้นได้ช้า จะเป็นธุรกิจขนาดกลางลงล่าง โดยมีความเสี่ยงที่จำนวนผู้ประกอบการภาคการผลิตในธุรกิจรถยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ เคมีภัณฑ์ โลหะ แฟชั่น อาจลดลงอีก ส่วนในภาคการค้าและบริการ แม้จำนวนผู้ประกอบการอาจเพิ่มแต่การยืนระยะทางธุรกิจก็คงไม่ง่ายเช่นกัน ด้านนางสาวธัญญลักษณ์ วัชระชัยสุรพล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า ปี 2568 คาดว่าจะยังเห็นสถานการณ์ที่แนวโน้มสินเชื่อของระบบธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในไทยเติบโตช้าและต่ำ โดยมีอัตราการขยายตัวราว 0.6% จากปี 2567 ที่คาดว่าจะหดตัว 1.8% ท่ามกลางปัญหาหนี้ครัวเรือนสูงที่ยังจะกดดันให้สินเชื่อรายย่อยยังหดตัวต่อเนื่อง ขณะที่หนี้ด้อยคุณภาพยังเป็นปัญหาที่ต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง ทั้งฝั่งสินเชื่อรายย่อย รวมถึงฝั่งสินเชื่อเอสเอ็มอี โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยกสิกรไทย ได้วิเคราะห์ข้อมูลสินเชื่อธุรกิจ จากฐานข้อมูลบัญชีลูกหนี้นิติบุคคล ซึ่งเป็นข้อมูลสถิติที่ไม่ระบุตัวตนของเครดิตบูโร (NCB) พบ 5 ประเด็นสำคัญ คือ
1. หนี้ธุรกิจไทยกลับมาถดถอยลงตั้งแต่ช่วงปลายปี 2566 ถึงต้นปี 2567 หลังหมดแรงส่งมาตรการช่วยเหลือทางการเงินช่วงโควิด 2. ธุรกิจยิ่งเล็ก ปัญหาหนี้เสียยิ่งรุนแรง 3. สถาบันการเงินทุกประเภทที่ปล่อยสินเชื่อเผชิญผลกระทบด้านปัญหาหนี้ด้อยคุณภาพชัดเจนขึ้น 4. การเจาะกลุ่มปัญหาหนี้เรื้อรัง คือ ธุรกิจบัญชีเดิมที่เป็นหนี้ด้อยคุณภาพในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา พบว่า ธุรกิจขนาดเล็กและกลางน่าห่วงมากขึ้น 5. ประเภทธุรกิจหลักที่มีปัญหาหนี้ด้อยคุณภาพเน้นไปที่อสังหาริมทรัพย์ ค้าส่งค้าปลีก ที่พักและอาหาร และภาคการผลิต ซึ่งสะท้อนปัญหาเฉพาะหน้า อาทิ ปัญหาอำนาจซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง การแข่งขันรุนแรง และการฟื้นตัวของธุรกิจที่ไม่กระจายทั่วถึง รวมถึงสะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างจากความสามารถในการแข่งขันที่ถดถอย ซึ่งจากผลสำรวจความคิดเห็นของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2567 ชี้ว่าการสนับสนุนเศรษฐกิจภาพรวมให้เติบโตต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดผลดีต่อรายได้ของธุรกิจ จะเป็นหนึ่งในทางออกที่ยั่งยืน

Go To Lead


กรุงศรี-เครือ รพ.พญาไท-เปาโล
ยกระดับบริการทางการแพทย์และการเงิน อาเซียน
นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกลยุทธ์และวางแผนธุรกิจองค์กร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ความร่วมมือนี้เป็นก้าวสำคัญเพื่อสร้าง Connectivity เชื่อมโยงความต้องการของลูกค้าอาเซียน และนำเสนอโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายในการเป็นธนาคารชั้นนำแห่งภูมิภาคเพื่อความยั่งยืน โดยความร่วมมือในครั้งนี้มุ่งขยายสิทธิประโยชน์ของลูกค้าและพัฒนาการให้บริการด้านสุขภาพในภูมิภาคอาเซียน ให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงการดูแลสุขภาพได้อย่างสะดวกและปลอดภัย โดยลูกค้าจะได้รับการบริการเฉพาะบุคคล (Personalized Service) ในโครงการ ‘ASEAN Privilege’ ซึ่งครอบคลุมการให้บริการในเครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล ทั้งยังสามารถเข้าถึงระบบชำระเงินที่สะดวกสบายผ่านช่องทางออนไลน์และแอปพลิเคชันบนมือถือได้ทั้งในโรงพยาบาลและบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งช่วยลดความยุ่งยากในกระบวนการชำระค่ารักษาพยาบาล โดยในเฟสแรกจะให้บริการลูกค้าในประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นลูกค้าของ Hattha Bank ธนาคารพาณิชย์ชั้นนำในกัมพูชาและเป็นสถาบันการเงินในเครือกรุงศรี ช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงการรักษาและรับคำปรึกษาทางการแพทย์ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพผ่านบริการ Telemedicine ข้ามประเทศในราคาที่เข้าถึงได้”
“ความร่วมมือนี้ครั้งนี้เป็นการก้าวข้ามข้อจำกัดเดิมๆ และร่วมกันขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง นำเสนอ Healthcare Solution ที่มีคุณค่าเพื่อประโยชน์ของลูกค้าในอาเซียน และด้วยความเชี่ยวชาญและเครือข่ายที่แข็งแกร่งของกรุงศรีในอาเซียน เราเชื่อว่าจะสามารถส่งมอบบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม ซึ่งความร่วมมือนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นในการเดินหน้าสู่การขยายฐานลูกค้า พัฒนาโซลูชัน และสร้างอีโคซิสเต็มส์ที่แข็งแกร่งเพื่อลูกค้าของเราในอนาคต” นางสาวพัทธ์หทัย กุลจันทร์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจอาเซียน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริม
ในอนาคตกรุงศรียังมีแผนการขยายบริการทางการแพทย์ใหม่ๆ กับเครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล รวมถึง สินค้าและบริการราคาพิเศษ การขยายสิทธิพิเศษให้เฉพาะลูกค้าในกลุ่มกรุงศรี เช่น บริการ ‘Tele Ambulance’ และสนับสนุนการพัฒนาบริการนวัตกรรมด้านสุขภาพในภูมิภาคอาเซียนเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้ากรุงศรี
นายไพบูลย์ เฟื่องฟูสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบัญชีและการเงิน เครือโรงพยาบาลพญาไท -เปาโล กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “โครงการ ‘ASEAN Privilege’ นี้มุ่งเน้นการให้บริการที่ครอบคลุมและเชื่อมโยงกันระหว่างการแพทย์และการเงินเพื่อให้ผู้ใช้บริการในเครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล ได้รับประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อในทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นระบบชำระเงินแบบไร้เงินสด (Cashless) หรือบริการ Telemedicine ที่จะช่วยยกระดับคุณภาพบริการทางการแพทย์ และเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว ในการเข้าถึงการดูแลสุขภาพของผู้รับบริการ”
นพ. อนันตศักดิ์ อภัยรัตน์ กล่าวว่า “เครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล มีความตั้งใจในการยกระดับประสบการณ์การรักษาสำหรับผู้ป่วย และพัฒนาบริการที่ทันสมัยเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ด้วยการทำงานร่วมกันระหว่างแพทย์ผู้ชำนาญการและทีมสหสาขาวิชาชีพที่พร้อมทุ่มเทในการดูแลผู้ป่วย ภายใต้แนวคิด ‘Value Based Healthcare’ ซึ่งเน้นคุณค่าการรักษาที่เหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการของผู้ป่วยรายบุคคล ภายใต้คุณภาพมาตรฐานแบรนด์ ‘พญาไท’ ในระดับสากล”“เรามีความมุ่งมั่นในการให้บริการที่มุ่งเน้นประสบการณ์ของผู้ป่วย และตอบโจทย์ความเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญที่จะต่อยอดไปสู่โครงการในอนาคต ที่ช่วยเชื่อมโยงบริการด้านการเงินและการแพทย์เข้าด้วยกัน เพื่อสร้างระบบการดูแลสุขภาพที่ครอบคลุมสำหรับผู้ป่วยในทุกกลุ่มโรค” นายไพบูลย์ กล่าวทิ้งท้ายว่า

Go To Lead


ไทยพาณิชย์ -โกดังไฟฟ้าดอทคอม
และหัวเว่ย ส่งเสริมไลฟ์สไตล์ อยู่ อย่าง ยั่งยืน
ดร.ยรรยง ไทยเจริญ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Wealth และประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนด้านความยั่งยืน ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ธนาคารมีความมุ่งมั่นในการเป็น True partner ให้กับลูกค้าตลอดเส้นทางการเติบโตอย่างยั่งยืนผ่านการสนับสนุนด้านการเงินยั่งยืน (Sustainable Finance) ที่ครบถ้วนให้กับลูกค้าทุกกลุ่ม พร้อมนำศักยภาพทางเทคโนโลยีของธนาคารเข้าขับเคลื่อนความยั่งยืนทุกมิติ นอกจากนี้ ธนาคารยังจะร่วมมือกับองค์กรพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญด้านต่างๆ สนับสนุนโครงการความยั่งยืนให้กับลูกค้าของเรา ทั้งนี้ เทรนด์การเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาดในชีวิตประจำวันกำลังเป็นที่ได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วไป ธนาคารจึงต้องการสนับสนุนกลุ่มลูกค้ารายย่อยให้สามารถเข้าถึงทางเลือกการใช้งานพลังงานสะอาดได้อย่างสะดวกสบาย และถือเป็นจุดเริ่มต้นของการดำเนินชีวิตประจำวันเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนอีกด้วย จึงได้ร่วมมือกับ กันกุลโกดังไฟฟ้า และ หัวเว่ย เทคโนโลยี่ นำเสนอผลิตภัณฑ์ชุดโซลาร์เซลล์สำหรับที่อยู่อาศัย “โซลาร์รูฟท็อป” ผ่านแอป SCB EASY เพื่อเชิญชวนให้คนไทยร่วมกันขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ สอดคล้องกับเป้าหมายของธนาคารที่มุ่งเป็นธนาคารชั้นนำด้านความยั่งยืน และเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันเป้าหมาย Net Zero 2050”
ธนาคารไทยพาณิชย์มุ่งมั่นที่จะนำศักยภาพทางด้านผู้นำดิจิทัลแบงก์สร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าทุกความต้องการ ตามกลยุทธ์ Digital Bank with Human Touch ด้วยการใช้ความสามารถทางด้านเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มดิจิทัลเป็นตัวกลางเชื่อมโยงลูกค้าไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน ด้วยความแข็งแกร่งของแอป SCB EASY ที่ปัจจุบันครอบคลุมผู้ใช้งานกว่า 18 ล้านราย จึงเป็นช่องทางที่มีศักยภาพในการนำเสนอทางเลือกผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อความยั่งยืนให้กับประชาชนทั่วไป ความร่วมมือในครั้งนี้ จึงเป็นการสะท้อนความมุ่งมั่นของธนาคารที่จะเป็นพันธมิตรยั่งยืนให้กับลูกค้าทุกกลุ่ม กลุ่มประชาชนทั่วไปมากขึ้น ช่วยประหยัดค่าไฟ สามารถแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม และลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างเห็นผล
นางสาวนฤชล ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจพลังงานและกลยุทธ์การลงทุน บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การผนึกกำลังร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ในครั้งนี้ ทาง GUNKUL เชื่อว่าจะสามารถสร้างการเติบโตให้กับตลาดพลังงานสะอาดเนื่องด้วยบทบาทของภาคธนาคารที่เชื่อมโยงกับประชาชนทั่วประเทศผ่านแอป SCB EASY ทางโกดังไฟฟ้าดอทคอมได้คัดสรรโซลูชั่นในการประหยัดค่าไฟพร้อมกับตอบโจทย์เรื่องสิ่งแวดล้อมสำหรับกลุ่มลูกค้าครอบคลุมระดับบ้านเรือนไปจนถึงออฟฟิศขนาดเล็กหรือค่าไฟเริ่มต้นที่ 2,500 บาทต่อเดือน จนถึงค่าไฟที่ประมาณ 10,000 บาทต่อเดือน ทั้งนี้ภายใต้แนวคิด ‘Add Energy to Cart’ ทาง GUNKUL ให้ความสำคัญเสมอมากับอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานและบริการที่มีคุณภาพ ซึ่งนำมาสู่การพัฒนาแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซโกดังไฟฟ้าดอทคอมที่มีจุดเด่นด้านตัวเลือกสินค้าจากแบรนด์ชั้นนำในราคาจับต้องได้และประสบการณ์ช้อปปิ้งที่สะดวกสบายเพื่อเพิ่มทางเลือกแก่ผู้ใช้พลังงานในทุกบทบาท ซึ่งทางแพลตฟอร์มก็ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากหัวเว่ยซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดด้านอุปกรณ์ระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ โดยทั้งหมดนี้นอกเหนือจากจะเป็นฟันเฟืองสำคัญในการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านทางด้านพลังงาน โซลาร์รูฟท็อปยังสามารถเป็นโอกาสในอนาคตที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้า อาทิ คาร์บอนเครดิต และยกระดับศักยภาพทางการแข่งขันให้กับประเทศต่อไป
นายโลแกน ยู กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจพลังงานดิจิทัล บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “หัวเว่ยมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการสร้างอนาคตพลังงานสะอาด เพื่อส่งเสริมความยั่งยืนและคุณภาพชีวิตของคนไทยในทุกภาคส่วน เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือในครั้งนี้ เพื่อให้คนไทยได้มีโอกาสเข้าถึงพลังงานสะอาดที่ได้จากการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้ามากขึ้น ในการร่วมมือครั้งนี้ เรามีเป้าหมายที่จะผลักดันการใช้งานระบบโซลาร์เซลล์ในประเทศไทย เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงพลังงานสะอาดได้อย่างง่ายดาย ด้วยการใช้งานผ่านแอป SCB EASY จากทางธนาคารไทยพาณิชย์ พร้อมรับการดูแลจากบริษัทชั้นนำอย่าง กันกุล โกดังไฟฟ้าแพลตฟอร์ม ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยของระบบพลังงานที่เราได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ระบบโซลาร์รูฟท็อปของหัวเว่ย นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้การใช้งานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์มีประสิทธิภาพ ใช้งานง่าย และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เจ้าของบ้านได้มากขึ้น พลังงานที่ได้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสู่การประหยัดค่าไฟฟ้า ลดปัญหาค่าไฟแพงในปัจจุบัน คืนทุนเร็วในระยะ 5-7 ปี และหากไฟเหลือ สามารถทำกำไรจากการขายไฟฟ้าคืนอย่างน้อยอีก 20-25 ปี”
ในแพ็คเกจ “โซลาร์รูฟท็อป” ที่นำเสนอบนแอป SCB EASY นั้น เป็นชุดอุปกรณ์เพื่อการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์คุณภาพสูงจาก Gunkul และหัวเว่ย ประกอบด้วย
แผงโซลาร์เซลล์ (Solar panel) โกดังไฟฟ้าดอทคอมมุ่งเน้นในการส่งมอบแผงโซลาร์เซลล์ที่มีประสิทธิภาพสูงในการเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้า และมีความปลอดภัย อายุการใช้งานกว่า 25 ปี ทนทานแข็งแรงจากแบรนด์ชั้นนำ Tier 1 ที่ได้รับการยอมรับโดยผู้ติดตั้งและบริษัทใหญ่ๆ ทั่วโลก โดยนำเสนอตัวเลือกกำลังผลิตที่หลากหลายตอบโจทย์หน้างานหลังคาทุกรูปแบบ นอกจากนั้นทางแพลตฟอร์มยังมีบริการขนส่งที่ช่วยดูแลให้สินค้าไปถึงมือผู้รับในคุณภาพที่ดีที่สุด อุปกรณ์แปลงไฟ (Huawei Solar Inverter) อุปกรณ์แปลงไฟในระบบโซลาร์เซลล์ของหัวเว่ย ได้รับการออกแบบให้มีความทนทานและประสิทธิภาพสูง ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย สามารถตรวจสอบการทำงานผ่านแอปพลิเคชัน ช่วยให้ผู้ใช้งานทราบสถานะการทำงานของระบบ รวมถึงดูข้อมูลการประหยัดพลังงานได้ทุกที่ทุกเวลา มีความปลอดภัยสูง มีกำลังไฟหลากหลายเหมาะสมตามความต้องการของแต่ละครัวเรือน

Go To Lead


ธนาคารกรุงเทพ จัดกิจกรรมทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 100 รูป
‘ครบรอบ 80 ปี’ ทุกสาขาทั่วไทย7
นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า การเฉลิมฉลองในวาระครบรอบ 80 ปี ของการก่อตั้งธนาคาร ว่า ธนาคารกรุงเทพก่อกำเนิดขึ้นเมื่อ 80 ปีที่แล้ว ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจของคณะผู้ก่อตั้ง เพื่อให้มีธนาคารของคนไทย ที่ผู้ประกอบการไทยเข้าถึงได้ และมีบริการทางการเงินที่สามารถสนับสนุนการค้าขายของคนไทยได้ทัดเทียมกับบริการของธนาคารต่างชาติ โดยธนาคารกรุงเทพเปิดดำเนินการวันแรก ด้วยบุคลากรทั้งหมด 23 คน เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2487 มีสำนักงานใหญ่แห่งแรกเป็นอาคารพาณิชย์ 2 คูหา ตั้งอยู่บนถนนราชวงศ์ มุมถนนทรงวาด ตลอด 8 ทศวรรษที่ผ่านมา ธนาคารกรุงเทพเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ด้าน ธนาคารมีเครือข่ายสาขามากกว่า 1,000 แห่ง ทั้งในประเทศไทย ในประเทศทั่วภูมิภาคอาเซียน สาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร พร้อมด้วยผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินครบวงจร สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม และฐานลูกค้าที่กว้างขวางมากกว่า 17 ล้านบัญชีในทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย ซึ่งยังไม่รวมลูกค้าของธนาคารในเครือ อันได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ (ประเทศจีน) บางกอก แบงค์ เบอร์ฮาด (Bangkok Bank Berhad) ในประเทศมาเลเซีย และธนาคารเพอร์มาตา ในประเทศอินโดนีเซีย
“ความเจริญก้าวหน้าและการเติบโตของธนาคารกรุงเทพ ล้วนเป็นผลมาจากการร่วมแรงร่วมใจของพี่น้องชาวบัวหลวงทุกคน ภายใต้วิสัยทัศน์อันกว้างไกลของผู้นำในแต่ละยุคสมัย ตั้งแต่ยุคเริ่มต้น นำโดย “นายห้าง” คุณชิน โสภณพนิช ผู้ร่วมก่อตั้งธนาคาร พร้อมด้วยผู้บริหารที่เปี่ยมด้วยความรู้ความสามารถ คุณบุญชู โรจนเสถียร และคุณประสิทธิ์ กาญจนวัฒน์ ที่ช่วยกันเสริมสร้างรากฐานให้มั่นคง พร้อมสำหรับการเติบโตในยุคต่อมาภายใต้การนำของ คุณชาตรี โสภณพนิช กับทีมผู้บริหารที่เข้มแข็ง ได้แก่ ดร.อำนวย วีรวรรณ คุณดำรงค์ กฤษณามระ คุณปิติ สิทธิอำนวย และ คุณเดชา ตุลานันท์ เป็นต้น ที่ร่วมกันขับเคลื่อนธนาคารกรุงเทพให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงภายในประเทศ หากยังนำธงชาติไทยและตราสัญลักษณ์บัวหลวงไปปักหมุกในภูมิภาคอาเซียนและเอเชียได้อย่างสง่างาม
การเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 80 ปีของการก่อตั้งธนาคารกรุงเทพ นอกจากจะเป็นโอกาสร่วมชื่นชมยินดีกับความสำเร็จที่ผ่านมา ยังช่วยกระตุ้นเตือนให้เรียนรู้จากอดีต ตระหนักถึงภารกิจในปัจจุบัน และเตรียมความพร้อมเพื่อมุ่งสู่อนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน ยังเป็นโอกาสสำคัญในการแสดงความขอบคุณผู้มีคุณูปการต่อธนาคาร ทั้งคณะผู้นำ ผู้บริหารและบุคลากรชาวบัวหลวง ในทุกยุคสมัย และที่สำคัญเหนืออื่นใด คือ ลูกค้า รวมถึงสาธารณชน ที่ไว้วางใจให้ธนาคารกรุงเทพภาย “เพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน” ที่มุ่งมั่นเติบโตเคียงข้างลูกค้าในทุกระดับ ได้มีส่วนร่วมในการเจริญเติบโตของแต่ละภาคส่วน และร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้เจริญก้าวหน้าต่อไป

Go To Lead


ทีทีบี มอบโปรฯ ดี 2 ต่อ
ชวนลูกค้าบัญชีเงินเดือน ทีทีบี ใช้จ่ายคุ้มยิ่งกว่า
ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี ชวนลูกค้าบัญชีเงินเดือน ทีทีบี รับสิทธิพิเศษด้านการใช้จ่ายแบบดับเบิ้ลยิ่งกว่าเดิม กับโปรดี 2 ต่อ เพียงสมัครบัตรเครดิต ttb แบบใช้เงินฝากค้ำประกัน ผ่านแอป ttb touch โดยบัญชีที่สามารถใช้ค้ำประกัน ได้แก่ บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ttb all free หรือ ttb basic ไม่ต้องใช้เอกสารรายได้หรือสลิปเงินเดือน เพียงใช้เงินฝากค้ำประกัน เริ่มต้น 15,000 บาท ซึ่งการสมัครประเภทนี้เพิ่มโอกาสได้รับการอนุมัติสูง พร้อมรับความคุ้มค่าเหนือกว่าแบบจัดเต็ม ทั้งการสะสมคะแนนไว้แลกของรางวัล หรือรับเครดิตเงินคืน เลือกทำรายการ ttb so goood ผ่อนชำระ 0% นาน 3 เดือน รวมทั้งโปรโมชันส่วนลดและเครดิตเงินคืนกับร้านค้าพันธมิตรชั้นนำต่าง ๆ อีกมากมาย
สิทธิพิเศษ โปรดี 2 ต่อ สำหรับลูกค้าบัญชีเงินเดือน ทีทีบี ที่สมัครบัตรเครดิต ttb ผ่านแอป ttb touch ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 – วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 (เฉพาะผู้สมัครที่ไม่เคยมีบัตร หรือยังไม่เคยได้รับอนุมัติบัตรเครดิต ttb ทุกประเภทมาก่อน) รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม 2 ต่อ ดังนี้ รับ Starbucks E-Coupon มูลค่า 300 บาท เมื่อใช้จ่ายครั้งแรกผ่านบัตร โดยไม่จำกัดยอดใช้จ่ายขั้นต่ำ ภายใน 30 วัน หลังจากบัตรได้รับการอนุมัติ สิทธิพิเศษเฉพาะลูกค้าที่รับเงินเดือนผ่านบัญชี ทีทีบี เท่านั้น
รับกระเป๋าเดินทาง BSC Luxury Blue ขนาด 20 นิ้ว มูลค่า 3,990 บาท จำนวน 1 ใบ เมื่อมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรสะสมตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไป พร้อมใช้บริการแอป ttb touch และบริการ e-Statement ภายใน 30 วันหลังจากที่บัตรได้รับการอนุมัติ
ทีทีบีส่งเสริมให้ลูกค้าใช้บัตรเครดิตเท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด รายละเอียดและสิทธิประโยชน์ โปรดี 2 ต่อ สำหรับลูกค้าบัญชีเงินเดือน ทีทีบี แบบใช้เงินฝากค้ำประกัน คลิก https://www.ttbbank.com/link/payroll-securedcc-pro-pr หรือ สอบถามข้อมูลที่ ทีทีบี ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ ttb contact center 1428

Go To Lead


รมช. คลังเยี่ยมชมกิจการผู้ประกอบการส่งออก เชียงใหม่
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า ลูกค้า EXIM BANK ซึ่งประกอบธุรกิจส่งออก ประกอบด้วย ห้างหุ้นส่วนจำกัด เชียงใหม่เซลาดอน (2015) ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องปั้นดินเผาประเภทศิลาดล (Celadon) โดยมีนางสาวทัศนีย์ ยะจา หุ้นส่วนผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เชียงใหม่เซลาดอน (2015) ให้การต้อนรับ และนำชมโรงงานผลิตเครื่องปั้นดินเผาประเภทเนื้อหิน (Stoneware) เน้นการทำมือ โดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์ ใช้วัตถุดิบและแรงงานในท้องถิ่น สีเขียวหยกของดินเผาเกิดจากแร่ธาตุธรรมชาติในดินที่ผ่านเทคนิคการผลิตที่ได้รับการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาประเภทสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indications : GI) ในอำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่
ยังได้เยี่ยมชมกิจการบริษัทเอ็กซา ซีแลม จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายฟันปลอม รากฟันเทียม รวมถึงงานด้านทันตกรรมครบวงจร เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมทันตกรรมของไทย ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีคุณภาพสูง มีทีมงานช่างทันตกรรมมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญ และมีเครือข่ายการขายครอบคลุมในระดับภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุด โดยมีนายอภิชัย มีเกียรติชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท เอ็กซา ซีแลม จำกัด ให้การต้อนรับและนำชมกระบวนการผลิตของโรงงานในอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่

Go To Lead


[ENGLISH] 
  --  
iClickNews.com