|
ธ.ก.ส. -สอน. 'หนุน' ตัดอ้อยสด ลด PM2.5
ธ.ก.ส. จับมือสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) จัดทำ มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยเก็บเกี่ยวอ้อยสดคุณภาพดี เพื่อลดฝุ่น PM2.5 สำหรับฤดูการผลิตปี 2567/2568 เพื่อส่งเสริมเกษตรกรชาวไร่อ้อยเก็บเกี่ยวอ้อยสดคุณภาพดีทดแทนการเผา ลดปัญหา PM2.5 ยกระดับอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลของไทยสู่อุตสาหกรรมเศรษฐกิจสีเขียว โดยเตรียมงบประมาณสนับสนุนรวม 5.3 พันล้านบาท ส่งเสริมให้แก่เกษตรกรชาวไร่อ้อย ตัดอ้อยสดคุณภาพดี ในอัตรา 69 บาทต่อตันอ้อย
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และประธานกรรมการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2568 มีมติมอบหมายให้ ธ.ก.ส. ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) จัดทำ มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยเก็บเกี่ยวอ้อยสดคุณภาพดี เพื่อลดฝุ่น PM2.5
สำหรับฤดูการผลิตปี 2567/2568 เพื่อส่งเสริมเกษตรกรชาวไร่อ้อยเก็บเกี่ยวอ้อยสดคุณภาพดีทดแทนการเผา ลดปัญหามลพิษทางอากาศ ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) และยกระดับอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลของไทยสู่อุตสาหกรรมเศรษฐกิจสีเขียว โดยการสนับสนุนเงินให้แก่เกษตรกรชาวไร่อ้อย ที่ตัดอ้อยสดคุณภาพดี ในอัตรา 69 บาทต่อตันอ้อย คาดว่า ฤดูการผลิตปี 2567/2568 จะมีปริมาณอ้อยทั้งสิ้น 93.17 ล้านตัน โดยมีสัดส่วนปริมาณอ้อยสดคุณภาพดีร้อยละ 80 หรือประมาณ 75 ล้านตัน คิดเป็นงบประมาณสนับสนุนรวมทั้งสิ้น 5,333.5875 ล้านบาท แบ่งเป็น
(1) ค่าใช้จ่ายมาตรการสร้างแรงจูงใจแก่ชาวไร่อ้อยเก็บเกี่ยวอ้อยสด โดยจ่ายเงินสนับสนุนแก่เกษตรกรชาวไร่อ้อย ในอัตรา 69 บาทต่อตัน งบประมาณดำเนินการ 5,175 ล้านบาท (2) ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการของ ธ.ก.ส. ทั้งในด้านการชดเชยต้นทุนทางการเงินและค่าบริหารจัดการ รวมจำนวนเงิน 158.5875 ล้านบาท
ธ.ก.ส. พร้อมโอนเงินให้แล้วเสร็จ หลังจากที่ได้รับรายชื่อเกษตรกรจากสำนักงานกองทุนอ้อยและน้ำตาล เรียบร้อยแล้ว ภายใน 3 วัน ซึ่ง ธ.ก.ส. จะใช้แหล่งเงินทุนของธนาคารสำรองจ่ายงบประมาณทั้งหมดไปก่อน และเสนอของบประมาณรายจ่ายประจำปี เพื่อชำระคืนต่อไป โดยรัฐบาลจะชดเชยภาระทางการคลังตามมาตรา 20(5)
แห่ง พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561
สำหรับการจัดทำมาตรการดังกล่าวได้รับการออกแบบภายใต้พันธกรณีด้านสิ่งแวดล้อมของ WTO มุ่งหวังให้เกษตรกรยกระดับผลผลิตของอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลไทยสู่เศรษฐกิจใหม่ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และมาตรการนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมควบคู่กับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรไทย ซึ่งภาครัฐยังคงเดินหน้าผลักดันให้เกษตรกรลดการเผาอ้อยอย่างมีประสิทธิภาพ และใช้การตัดอ้อยสด 100% อย่างยั่งยืนต่อไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ Call Center 02 555 0555
Go To Lead
|
กรุงศรี 'ชู'กลยุทธ์พัฒนาบริการธุรกรรมการเงิน
นางสาวนิลวรรณ จีระบุญ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกรรมการเงิน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้ เรามุ่งขยายบริการธุรกรรมการเงินให้เติบโตอย่างยั่งยืนด้วยการต่อยอดจากโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินดิจิทัลที่มีอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับการพัฒนาโซลูชันให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าธุรกิจและรายย่อย พร้อมปรับเปลี่ยนโซลูชันให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจไปสู่เป้าหมายการเป็นพันธมิตรด้านโซลูชันการชำระเงินที่ยั่งยืนในอาเซียน ทลายข้อจำกัดในเรื่องของจำนวนลูกค้าของธนาคารด้วยการเติบโตไปกับพันธมิตร นำเสนอ Embedded Finance Solutions เพื่อเชื่อมต่อบริการทางการเงินของธนาคารเข้ากับแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่มีทั้งบริการชำระเงิน การให้สินเชื่อ หรือการจัดการบัญชีธนาคาร ด้วย API Technology ให้ลูกค้ากรุงศรีและลูกค้าต่างธนาคารสามารถทำธุรกรรมผ่านแอปต่าง ๆ ได้อย่างไร้รอยต่อ
สำหรับปี 2568 นี้ กลุ่มงานธุรกรรมการเงินตั้งเป้าเติบโตฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่องด้วยกลุยทธ์หลักสามด้าน ดังนี้ Digital Sustainable Solutions: พัฒนาและขยายโครงสร้างพื้นฐานการเงินดิจิทัลด้วยการเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มของพันธมิตร อาทิ บริการ Krungsri Beyond Procure ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการวางบิล ชำระเงินและการแลกเปลี่ยนใบรับอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย เชื่อมต่อกับโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินสำหรับภาคธุรกิจ บริการ Krungsri Bill Payment Online ช่วยลูกค้าธุรกิจ SME ให้สามารถออก Invoice แบบมี QR Code รับชำระเงินได้ง่าย สะดวก และปลอดภัย ลดความยุ่งยากในการจัดการใบแจ้งหนี้และการกระทบยอดบัญชี และบริการ Krungsri Mung-Mee SHOP ที่สามารถรับชำระเงินด้วยการสแกน QR Code และตรวจสอบยอดเงินเข้าได้ทันที หมดกังวลเรื่องสลิปปลอม
Regional Expansion: ขยายเครือข่ายการชำระเงินระดับภูมิภาค ผ่านความร่วมมือกับ MUFG ด้วยบริการ QR Cross-border Payment ครอบคลุมแปดประเทศ (Cambodia, Indonesia, Malaysia, Singapore, Vietnam, Lao PDR, Japan, Hong Kong) บริการ Realtime Cross-border Transfer สามารถโอนเงินแบบเรียลไทม์ได้ถึงห้าสกุลเงิน ไปยัง 13 ประเทศ และจะเพิ่มสกุลเงินที่สามารถโอนได้อีกในปีนี้
Customers Digital Experience: นำเสนอโซลูชันที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลางโดยให้บริการผ่านช่องทางดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ลูกค้าทำธุรกรรมได้ง่ายยิ่งขึ้น พัฒนาแพลตฟอร์ม Krungsri CashLink เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ เช่น การชำระเงินระหว่างประเทศและธุรกิจการค้าต่างประเทศ บริการเกี่ยวกับสินเชื่อ การทำ Digital Onboarding และบริการ Self Service ที่สามารถสมัครและทำรายการได้ด้วยตัวเอง ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงบริการได้ง่าย สะดวก ปลอดภัย ตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้ายิ่งขึ้นแม้ในปีนี้เราต้องเตรียมรับมือกับความท้าทายและปัจจัยภายนอกที่ไม่แน่นอนมากมาย เช่น นโยบายการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและในประเทศ กรุงศรียังเชื่อมั่นในโอกาสและพร้อมเดินหน้าอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาโซลูชันการชำระเงินผ่านการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ ที่ไม่เพียงช่วยให้การทำธุรกรรมเป็นไปตามความต้องการของลูกค้า แต่ยังสามารถเพิ่มโอกาสทางธุรกิจสำหรับลูกค้าธุรกิจให้สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย นางสาวนิลวรรณ กล่าวสรุป
Go To Lead
|
ทีทีบี โครงการอบรมพิเศษหลักสูตร Wealth Empowerment Program 2025
นายฐากร ปิยะพันธ์ ผู้จัดการใหญ่ ทีเอ็มบีธนชาต และ รศ.ดร.สมพงษ์ พรอุปถัมภ์ คณบดีฝ่ายการเงิน การบัญชี และการพัสดุ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้เกียรติร่วมงานเพื่อกล่าวปิดโครงการ และมอบประกาศนียบัตรให้แก่ผู้เข้าร่วมอบรมพิเศษหลักสูตร Wealth Empowerment 2025 สำหรับลูกค้า Wealth เพื่อเสริมสร้างวิสัยทัศน์ด้านการบริหารความมั่งคั่ง เพิ่มพูนทักษะความเป็นผู้นำองค์กรและผู้นำทางความคิด มุ่งยกระดับกลยุทธ์การบริหารธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน พร้อมเปิดโอกาสให้กลุ่มลูกค้า Wealth ของธนาคารที่เป็นเจ้าของธุรกิจและทายาทธุรกิจได้สร้างเครือข่ายนักธุรกิจที่มีคุณค่า พัฒนาตนเองเพื่อเสริมศักยภาพ นำแนวคิดใหม่ไปใช้วางแผนกลยุทธ์และสร้างนวัตกรรมต่าง ๆ รวมถึงทักษะการบริหารและต่อยอดความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน
หลังจากดำเนินโครงการมาอย่างเข้มข้นต่อเนื่องตลอด 8 สัปดาห์ (เมษายนมิถุนายน 2568) และได้เสร็จสิ้นลงอย่างสมบูรณ์แบบ ผู้เข้าอบรมได้รับองค์ความรู้เชิงลึก ด้านการพัฒนาตนเอง การสร้างนวัตกรรมทางธุรกิจ รวมถึงทักษะด้านการบริหารความมั่งคั่ง พร้อมกับได้แลกเปลี่ยนมุมมองและประสบการณ์อันทรงคุณค่ากับเครือข่ายนักธุรกิจที่หลากหลาย สร้าง Relationship ที่แข็งแกร่งระหว่างกัน ทีทีบี มุ่งมั่นในการเป็นพาร์ตเนอร์ทางการเงินที่พร้อมเสริมศักยภาพของลูกค้าอย่างแท้จริง เพื่อช่วยขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความสำเร็จอย่างมั่นคงและยั่งยืน พร้อมสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีในวันนี้และอนาคต
Go To Lead
|
ก.ล.ต. สั่งพักการให้ความเห็นชอบ Capital One ที่ปรึกษาทางการเงิน-ผู้ควบคุมการปฏิบัติงาน
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สั่งพักการให้ความเห็นชอบในการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน) (Capital One)และผู้ควบคุมการปฏิบัติงานรายนายปิยะ พงศกรไพศาล (นายปิยะ) เป็นเวลา 1 ปี เนื่องจากบกพร่องในการปฏิบัติงานในการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้แก่บริษัทมหาชนที่ยื่นคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (คำขออนุญาต IPO) ก.ล.ต. ตรวจสอบพบว่า Capital One และนายปิยะปฏิบัติงานบกพร่องอย่างร้ายแรงในการปฏิบัติหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการยื่นคำขออนุญาต IPO ของบริษัทมหาชนจำกัดแห่งหนึ่ง* อันแสดงถึงความประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงหรือขาดความระมัดระวังรอบคอบอย่างมากในการตรวจสอบหรือสอบทานข้อมูลที่สำคัญ (due diligence) ของบริษัทที่จะทำ IPO โดยพบข้อบกพร่องเกี่ยวกับการตรวจสอบความครบถ้วนของใบอนุญาตของบุคลากรในธุรกิจหลักของบริษัทที่จะทำ IPO ดังกล่าว รวมถึงไม่ตั้งข้อสังเกตและให้คำแนะนำแก่บริษัทดังกล่าวในการปรับปรุงโครงสร้างการบริหารงานให้เหมาะสมก่อนยื่นคำขออนุญาต โดยเฉพาะกลไกการกำกับดูแลบริษัทย่อยหลักของบริษัทที่จะทำ IPO ที่ยังขาดประสิทธิภาพและประสิทธิผล
ข้อบกพร่องที่ตรวจพบข้างต้นแสดงถึงการปฏิบัติงานที่บกพร่องของผู้ควบคุมการปฏิบัติงานอย่างร้ายแรงโดยไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรฐานและจรรยาบรรณเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพพึงกระทำ ตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งแสดงถึงความบกพร่องของระบบในการกำกับดูแลการปฏิบัติงานของผู้ควบคุมการปฏิบัติงานในสังกัดของ Capital One ซึ่งไม่สามารถควบคุมให้การปฏิบัติงานเป็นที่ปรึกษาทางการเงินเป็นไปตามมาตรฐานและจรรยาบรรณในการประกอบวิชาชีพ ก.ล.ต. จึงสั่งพักการให้ความเห็นชอบในการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินของ Capital One เป็นเวลา 1 ปี รวมทั้งสั่งพักผู้ควบคุมการปฏิบัติงานรายนายปิยะตลอดระยะเวลาการให้ความเห็นชอบที่ยังเหลืออยู่ และกำหนดระยะเวลารับพิจารณาคำขอความเห็นชอบในครั้งต่อไป** เมื่อพ้นระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่ 20 มิถุนายน 2568
อนึ่ง ที่ปรึกษาทางการเงินมีบทบาทสำคัญในการคัดเลือกและกลั่นกรองคุณภาพของบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดูแลให้บริษัทเปิดเผยข้อมูลให้ครบถ้วน ถูกต้อง และเพียงพอต่อการตัดสินใจ ลงทุน ซึ่งผลงานของที่ปรึกษาทางการเงินมีความสำคัญอย่างมากกับผู้ลงทุนและผู้เกี่ยวข้องในวงกว้าง ดังนั้น ที่ปรึกษาทางการเงินจึงต้องปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรฐานในการปฏิบัติงานของผู้ประกอบวิชาชีพและรักษาจรรยาบรรณวิชาชีพ หมายเหตุ :* บริษัทและที่ปรึกษาทางการเงินได้ถอนการยื่นคำขอ IPO และไม่ได้เสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชนแต่อย่างใด** หมายความว่า หากมายื่นคำขอความเห็นชอบในการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินในตลาดทุนในช่วงระยะเวลาที่สั่งเพิกถอนหรือสั่งพัก ก.ล.ต. จะไม่รับพิจารณาคำขอดังกล่าว
Go To Lead
|
EXIM BANK - SINOSURE 'หนุน'ผู้ประกอบการไทย-จีน
ขยายการส่งออกและลงทุนระหว่างประเทศ ในบริบทโลกใหม่
นายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการ และรักษาการกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) และนายซู ซินเหว่ย Vice President องค์กรรับประกันแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (China Export & Credit Insurance Corporation : SINOSURE) ซึ่งเป็นองค์กรรับประกันภาครัฐด้านการค้าและการลงทุนแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นประธานเปิดงานสัมมนา EXIM Thailand and SINOSURE : A Further Step of Business Partnership 2025 จัดโดย EXIM BANK ร่วมกับ SINOSURE เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือทางการค้าระหว่างไทย-จีน ท่ามกลางความท้าทายและโอกาสใหม่ในเศรษฐกิจโลก โดยมีผู้ประกอบการจากทั้งสองประเทศกว่า 120 รายเข้าร่วมงาน ณ โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2568
สถานการณ์เศรษฐกิจและการเมืองโลกที่มีความไม่แน่นอนสูง ทั้งความขัดแย้งทางการค้า ภูมิรัฐศาสตร์ ความผันผวนด้านอัตราแลกเปลี่ยน ราคาพลังงาน และผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้ผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องวางแผนและบริหารความเสี่ยงทางธุรกิจอย่างรอบด้าน เพื่อรักษาสภาพคล่องและความต่อเนื่องในการขยายธุรกิจ การใช้เครื่องมือบริหารความเสี่ยง เช่น ประกันการส่งออกและประกันความเสี่ยงการลงทุน จึงเป็นสิ่งจำเป็น โดย EXIM BANK ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง ให้บริการประกันการส่งออกและประกันความเสี่ยงการลงทุนเพียงรายเดียวในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2538 ครอบคลุมการคุ้มครองความเสียหายจากการไม่ได้รับชำระค่าสินค้า การปฏิเสธรับมอบสินค้า หรือคู่ค้าล้มละลาย อีกทั้งกรมธรรม์ยังสามารถใช้เป็นหลักประกันขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้ เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการไทยไม่ต้องกังวลกับความเสี่ยงจากการไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้าจากผู้ซื้อในต่างประเทศ กล้าตัดสินใจขยายมูลค่าค้าขายกับคู่ค้ารายเดิมหรือคู่ค้าใหม่ในตลาดที่ไม่คุ้นเคยได้อย่างมั่นใจ
นายบัณฑิต กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ จีนยังเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะในโลกการค้ายุคดิจิทัล เนื่องจากจีนเป็นตลาด E-commerce ที่ใหญ่ที่สุดในโลกและมีผู้บริโภคจำนวนมากหันมาซื้อสินค้าทางออนไลน์ การเข้าใจพฤติกรรมชาวจีนและใช้ช่องทางการตลาดที่เหมาะสมจะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยเจาะตลาดจีนได้อย่างประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ จีนยังคงเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทยติดต่อกัน 11 ปีตั้งแต่ปี 2556 ด้วยมูลค่าการค้าปี 2567 กว่า 1.16 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้นและยังมีโอกาสขยายความร่วมมือในหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป ยานยนต์ไฟฟ้า ดิจิทัล และพลังงานสะอาด ที่ผ่านมารัฐบาลจีนและไทยมีความร่วมมือทางการค้าระหว่างกันในการส่งเสริมความเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมสำคัญ อาทิ เซมิคอนดักเตอร์ แบตเตอรี่ไฟฟ้า ยานยนต์ไฟฟ้า และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง ตลอดจนส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างภาคธุรกิจ โดยเฉพาะการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า การจับคู่ธุรกิจบนพื้นฐานของการส่งเสริมและรักษาการแข่งขันทางการค้าที่เป็นธรรม ซึ่งที่ผ่านมาทั้งสองฝ่ายได้สนับสนุนการค้าทวิภาคีโดยการเปิดตลาดระหว่างกันมากขึ้นเป็นลำดับ ส่งเสริมให้เกิดการสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงและการขยายความร่วมมือด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรมในหลายโครงการ
นับตั้งแต่เปิดให้บริการประกันการส่งออกตั้งแต่ปี 2538 EXIM BANK มีปริมาณธุรกิจรับประกันการส่งออกสะสมจำนวน 2.18 ล้านล้านบาท มีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนทั้งสิ้นประมาณ 1,500 ล้านบาท โดย 76% เกิดจากกรณีผู้ซื้อในต่างประเทศปฏิเสธการชำระเงินค่าสินค้า รองลงมาประมาณ 23% เกิดจากผู้ซื้อล้มละลาย และอีก 1% เกิดจากผู้ซื้อปฏิเสธการรับมอบสินค้า ประเทศที่มีมูลค่ายื่นขอรับสินไหมทดแทนสูงสุด ได้แก่ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหรัฐฯ และสิงคโปร์ ขณะที่สินค้าที่มีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนสูงสุด ได้แก่ ข้าว อัญมณีและเครื่องประดับ และอะลูมิเนียม
ในงานสัมมนาครั้งนี้ EXIM BANK และ SINOSURE ร่วมกันเสริมสร้างความรู้ โอกาส และเงินทุน เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการไทย-จีนพร้อมวางแผนธุรกิจ รับมือกับความท้าทายในโลกการค้าที่มีความผันผวนสูงทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ท่ามกลางเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศที่ผันผวนและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากทั้งไทยและจีน ประกอบด้วย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน และอุปนายกและเลขาธิการสมาคมส่งเสริมการลงทุนและการค้าไทย-จีน นายอภิพงษ์ คุณากรบดินทร์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ประจำกรุงปักกิ่งและนครกวางโจว นายสุริยัน วิจิตรเลขการ ผู้อำนวยการสถาบันความร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง นายหลิว ฉวนเล่ย ประธานสมาคมการค้าวิสาหกิจไทย-จีน (CEA) นายเฉิง เจียหมิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์รับประกัน SINOSURE นางสาวหลี่ จิง ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาการตลาดและบริการลูกค้าประจำภูมิภาค SINOSURE และนายอภินัทธ์ จาตุศรีพิทักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และปฏิบัติการรับประกัน จาก EXIM BANK พร้อมด้วยนายเจียง เหว่ย อัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจและการพาณิชย์ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เข้าร่วมงาน
EXIM BANK มุ่งเสริมสร้างบทบาทในการผลักดันยุทธศาสตร์การค้าและการลงทุนของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนในเวทีโลก โดยเดินหน้าขยายความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินให้ตอบโจทย์ยุคเศรษฐกิจดิจิทัลและเศรษฐกิจสีเขียว เพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนธุรกิจไทยในห่วงโซ่อุปทานโลก ผลักดันให้ธุรกิจทุกระดับเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ เป็นฐานรากที่เข้มแข็งในการขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืน นายบัณฑิต กล่าว
Go To Lead
|
บัตรเครดิตกสิกรไทย ชวนสายกิน ปักหมุดกิน ฟินยกย่าน
อร่อยคุ้มย่านดังอารีย์ ทรงวาด รับส่วนลดสูงสุด 25%
นางสาวผกาฉัตร เตชาบูรพานนท์ รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย นำทีมยกขบวนความอร่อยคุ้ม ปักหมุดกิน ฟินยกย่าน กับบัตรเครดิตกสิกรไทย จัดเต็มโปรโมชันย่านแรกที่ อารีย์ แหล่งฮิปชิลล์ที่ใครๆ ก็มาเช็กอิน พร้อมด้วยศิลปินชื่อดัง กองทัพ พีค มาร่วมสร้างสีสัน เสิร์ฟความอร่อยร้านดัง ชวนเพื่อนมาอิ่มฟินคุ้มไปได้อีกกับบัตรเครดิตกสิกรไทยร้านดังที่ย่านอารีย์ และมาร์เก็ตเพลส ลา วิลล่า อารีย์ ครบทุกมู้ด ฟินได้หลากหลายสไตล์ ทั้งร้านอาหารไทย ร้านอาหารญี่ปุ่น หรือฟีลบรันช์สบาย คาเฟ่สายชิลล์ และบาร์สุดชิค โดยลูกค้าบัตรเครดิตกสิกรไทย รับโปรโมชันและสิทธิพิเศษได้ตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2568 - 31 ธันวาคม 2568
รับส่วนลดสูงสุด 25%* หรือรับฟรี!! จานพิเศษ เพียงใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิตกสิกรไทยกับร้านอาหาร คาเฟ่ ขนม ที่ร่วมรายการ
ปักหมุดร้านอร่อยที่ โซนอารีย์ ที่ต้องไปโดน! ได้แก่ ชอุ่ม / บ้านสะใภ้ใต้ (อารีย์) / อย่างเก่าก่อน / อองตอง ข้าวซอย / เหลา เหลา / แซ่บอีลี่ / Bar Storia del Caff? / Clay Bangkok / Cubby Dough / Fameal Brunch & Bubbly / HIDE Dine & Wine / Hobs / Hungry Brown / KAIZEN SUSHI & HIBACHI / Kinroll / Kouen / Knock Knock / Long Play Music and Bar / Luckys Hungry / Le Boeuf / O'ganic Concept / OIKOS Cafe & Restaurant / Paknang / Pink Typhoon Creative Pasta & Steak Ari / Premium craft pizza / Summer bowl / Sasori Chu / Warawara / Seiniku Ten / Shidon Donburi by Shichi / THE KEY ROOM NO.72
ปักหมุดร้านเด็ดที่ มาร์เก็ตเพลส ลา วิลล่า อารีย์ รับบัตรกำนัล 100 บาท เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรครบ 1,500 บาทขึ้นไป/เซลล์สลิป ได้แก่ สมุนตุ๋น / เสือ อารีย์ / After You / Bonchon / Coco Ichibanya / Fuji Japanese Restaurant / HAMAKATSU / Jones' Salad / Kanom Caf? / KARUN THAI TEA / KUBKAO' KUBPLA / On the Table / Ootoya / Phoenix Lava / Starbucks / Summer Bowl / Sushiro / YUU BBQ
นั่งรถ MuvMi รับส่วนลดฟรี 30 บาท / เที่ยว เฉพาะพื้นที่อารีย์-พญาไท โดยกรอกโค้ดในช่อง Promo หน้ารายละเอียดการเรียกรถที่แอปพลิเคชัน MuvMi ใส่โค้ด KBANKNEW สำหรับลูกค้าใหม่ (จำกัดจำนวน 2,000 สิทธิ์แรก) และ KBANKCC สำหรับลูกค้าปัจจุบัน (จำกัดจำนวน 750 สิทธิ์แรก) และแสดงบัตรเครดิตกสิกรไทยให้พนักงานขับรถก่อนจะขึ้นรถเท่านั้น จำกัด 1 สิทธิ์ / 1 โค้ดส่วนลด / 1 ท่าน ตั้งแต่วันที่ 26 มิ.ย. 68 31 ก.ค. 68
รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 18%* เมื่อใช้คะแนนสะสม K Point แลกเท่ายอดใช้จ่าย ทุกร้านอาหารทั่วไทย (ยกเว้นร้านอาหารในสนามกอล์ฟ และโรงแรม) เพียงส่ง SMS ก่อน หรือภายในวันที่ทำรายการ พิมพ์ K1 รับเครดิตเงินคืน 18% สำหรับรายการใช้จ่ายวันศุกร์ - เสาร์ อาทิตย์ หรือพิมพ์ K2 รับเครดิตเงินคืน 15% สำหรับรายการใช้จ่ายวันจันทร์ พฤหัสบดี (วรรค) หมายเลขบัตรเครดิต 12 หลักสุดท้าย (วรรค) ตามด้วยจำนวนคะแนนสะสม K Point เท่ายอดใช้จ่าย ส่งมาที่ 4545888 (ค่าบริการขึ้นกับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ)
เตรียมติดตาม ปักหมุดกิน ฟินยกย่าน กับร้านเด็ด ย่านทรงวาด ย่านกินดื่มเที่ยวที่เต็มไปด้วยงานอาร์ตสุดคูลที่สายกินและสายชิลต้องมาเช็กอิน!
มื้อนี้ K เลย กับบัตรเครดิตกสิกรไทย จัดเต็มมอบประสบการณ์ความอร่อยที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การกิน พร้อมความคุ้มค่าในการใช้จ่ายให้ลูกค้าได้อิ่มฟินคุ้มทุกมื้อตลอดทั้งปี
*ศึกษารายละเอียด ข้อจำกัด เงื่อนไขเพิ่มเติมที่ https://www.kasikornbank.com/k_4kNplKC
ใช้เท่าที่จำเป็น และชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี
Go To Lead
|
ออมสิน คว้า 2 รางวัล AREA 2025 Silver Emblem of Sustainability
และ Social Empowermentตอกย้ำSocial Bank ผ่านนวัตกรรม MyMo Secure Plus
นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารประสบความสำเร็จได้รับรางวัลระดับเอเชีย Asia Responsible Enterprise Awards (AREA) 2025 สาขา Social Empowerment จาก MyMo Secure Plus นวัตกรรมความปลอดภัยบน Mobile Banking ที่ช่วยลดความเสี่ยงจากภัยไซเบอร์ให้ลูกค้า บูรณาการร่วมกับ แคมเปญเตือนภัยมิจฉาชีพ เพื่อสื่อสารสร้างการรับรู้และเสริมภูมิคุ้มกันภัยทางการเงิน พร้อมกันนี้ ธนาคารออมสินยังได้รับรางวัลเกียรติคุณ Silver Emblem of Sustainability ในฐานะองค์กรที่มีความโดดเด่นและมุ่งมั่นในการดำเนินงานเพื่อความยั่งยืนในทุกมิติจนได้รับรางวัล AREA มาแล้ว 5 ปี จาก Enterprise Asia องค์กรพัฒนาเอกชนชั้นนำที่ส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการที่มีความรับผิดชอบในเอเชีย เพื่อเชิดชูและให้เกียรติองค์กรธุรกิจที่มีการดำเนินงานตามแนวทาง ESG และเป็นต้นแบบองค์กรชั้นนำในภูมิภาคเอเชียที่ขับเคลื่อนองค์กรสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกมิติ
ธนาคารออมสินถือเป็นธนาคารแรกที่พัฒนาโหมดปลอดมิจฉาชีพ ภายใต้ชื่อ MyMo Secure Plus เพื่อช่วยดูแลเงินฝากขั้นสูงสุดให้กับลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มที่ไม่รู้เท่าทันมิจฉาชีพที่เปลี่ยนรูปแบบการหลอกลวงตลอดเวลา ออกแบบโดยเน้นการทำธุรกรรมทางการเงินแบบจำกัดเฉพาะรายการที่จำเป็น อาทิ การโอนเงินไปยังบัญชีตนเองภายในธนาคารและต่างธนาคารที่ลงทะเบียนไว้ และการจำกัดวงเงินในการทำธุรกรรมต่อวัน ทั้งนี้ ธนาคารออมสินไม่เพียงพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยของลูกค้าเท่านั้น แต่ยังเป็นธนาคารแรกที่ดำเนินกลยุทธ์การสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการ (IMC) ผ่าน แคมเปญเตือนภัยมิจฉาชีพ ดำเนินการอย่างเข้มข้นผ่านช่องทางการสื่อสารที่ครบวงจร ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ สื่อนอกบ้าน หรืออินฟลูเอนเซอร์ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างกว้างขวางและครอบคลุมมากที่สุด เนื่องจากธนาคารตระหนักดีถึงความสูญเสียของประชาชนและวิกฤตของอาชญากรรมออนไลน์ที่นับวันจะทวีความรุนแรงจนกลายเป็นภัยคุกคามระดับประเทศ จึงเป็นความพยายามของธนาคารในการที่จะกระตุ้นเตือนให้ประชาชนรู้เท่าทันกลลวงและไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพทางการเงิน
รางวัลเกียรติคุณ Silver Emblem of Sustainability และ Social Empowerment ถือเป็นบทพิสูจน์ถึงบทบาทของธนาคารออมสินในฐานะ Social Bank ที่ไม่เพียงมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมเพื่อยกระดับการให้บริการลูกค้าเท่านั้น แต่ยังขับเคลื่อนการสร้าง Social Impact เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนช่วยบรรเทาปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง ธนาคารยังคงยึดมั่นในหลักการดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบตามแนวทาง ESG เพื่อก้าวสู่เป้าหมายความยั่งยืน ลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมในสังคม ตลอดจนเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว
Go To Lead
|
SME D Bank ลงใต้จัดเต็มโปรโมชันเพื่อเอสเอ็มอีไทยในงาน
มหกรรมการเงินหาดใหญ่ ยกทัพสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษ 3% ต่อปี
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ร่วมงาน มหกรรมการเงินหาดใหญ่ ครั้งที่ 15 (MONEY EXPO 2025 HATYAI) ระหว่างวันที่ 4-6 กรกฎาคม 2568 ณ บูธ F3 หาดใหญ่ฮอลล์ ชั้น 5 เซ็นทรัล หาดใหญ่ จ.สงขลา ยกขบวนผลิตภัณฑ์สินเชื่อครอบคลุมทุกกลุ่ม ตอบโจทย์ทุกความต้องการผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ไฮไลท์ คือ สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 3% ต่อปี คงที่ตลอด 3 ปีแรก ผ่อนชำระนานสูงสุด 10 ปี ปลอดชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 12 เดือน วงเงินกู้สูงสุด 15 ล้านบาท ครอบคลุมทุกกลุ่มและทุกความต้องการเอสเอ็มอีไทย ควบคู่บริการพัฒนาธุรกิจ ผ่านแพลตฟอร์ม DX by SME D Bank (dx.smebank.co.th) ช่วยเสริมศักยภาพกิจการ ครบถ้วนในจุดเดียว
ห้ามพลาด! พิเศษเฉพาะภายในงาน เมื่อยื่นขอสินเชื่อ และได้รับอนุมัติทุกวงเงิน รับโปรโมชันเสริมอีก 2 ต่อ ได้แก่ ต่อที่ 1 : ลดค่าธรรมเนียมวิเคราะห์สินเชื่อ (Front End Fee) สูงสุด 0.25% และต่อที่ 2 : รับบัตรกำนัล มูลค่า 500 บาท พร้อมเล่นเกม ลุ้นรับของที่ระลึกมากมาย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Call Center 1357
Go To Lead
|
[ENGLISH]
|