|
KBANK 'ชู'ยุทธศาสตร์ 3+1-Productivity
ธนาคารกสิกรไทย เดินหน้ายุทธศาสตร์ "3+1 and Productivity Strategy" พัฒนาโซลูชันทางการเงินที่ลูกค้าไว้วางใจและมีนวัตกรรม ทั้งในประเทศไทยและภูมิภาค ASEAN+3
นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า การได้รับรางวัลธนาคารที่ดีที่สุดของไทยจากยูโรมันนี่เป็นปีที่สองติดต่อกัน ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งและเป็นกำลังใจสำคัญให้ธนาคารมุ่งมั่นพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงและความท้าทายที่เกิดขึ้น อีกทั้งความสำเร็จในครั้งนี้สะท้อนถึงความร่วมแรงร่วมใจของทุกคนในองค์กร ที่ยึดมั่นในยุทธศาสตร์ 3+1 และ Productivity Strategy ซึ่งเน้นการเติบโตอย่างสมดุล มีประสิทธิภาพ และยั่งยืน เราเชื่อว่าการนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน แต่ยังช่วยให้สามารถส่งมอบบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างแท้จริง โดยตลอด 80 ปีที่ผ่านมา ความไว้วางใจจากลูกค้าเป็นแรงผลักดันสำคัญ และเราจะยังคงเดินหน้าสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ เพื่อให้ ทุกความประทับใจ...ยังคงไปได้อีก อย่างมั่นคงและยั่งยืน
ยุทธศาสตร์ "3+1 and Productivity Strategy" คือ แผนการดำเนินงานและเป้าหมายทางธุรกิจที่ธนาคารกสิกรไทยดำเนินการต่อเนื่องจากปี 2567 โดยมุ่งเน้นไปที่การเติบโตอย่างสมดุลและมีประสิทธิภาพประกอบด้วยยุทธศาสตร์หลัก 3 ด้าน คือ การยกระดับและเพิ่มประสิทธิภาพด้านสินเชื่อ การขยายธุรกิจที่สร้างรายได้ค่าธรรมเนียม การเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับช่องทางต่าง ๆ และ 'บวกหนึ่ง' คือการสร้างแหล่งรายได้ใหม่ในระยะกลางและระยะยาว โดยสิ่งที่ธนาคารเน้นเพิ่มขึ้นในปี 2568 นี้ คือ ยุทธศาสตร์ Productivity ซึ่งเป็นการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีขั้นสูงและปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อเพิ่มผลิตภาพจากการดำเนินงาน และตอบโจทย์การใช้ชีวิต มอบประสบการณ์บริการอย่างไร้รอยต่อและปลอดภัยให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น
ยูโรมันนี่ (Euromoney) นิตยสารด้านการเงินชั้นนำระดับโลกได้เปิดเผยผลการพิจารณารางวัลในโครงการ Euromoney Awards for Excellence 2025 ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องกว่า 30 ปี เพื่อยกย่องธนาคารและบุคลากรในแวดวงการเงินที่มีความโดดเด่น โดยปัจจุบันถือเป็นหนึ่งในรางวัลสำคัญที่สุดของอุตสาหกรรมการเงินระดับโลก ที่ได้รับความเชื่อถืออย่างสูง โดยในปี 2568 นี้ มีธนาคารกว่า 600 แห่ง จากราว 100 ประเทศทั่วโลก ส่งข้อมูลเข้าร่วมรับการพิจารณารางวัล สำหรับประเทศไทย ยูโรมันนี่ได้ประกาศให้ธนาคารกสิกรไทยได้รับรางวัลธนาคารที่ดีที่สุดของไทย (Thailands Best Bank) ประจำปี 2568 เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน จากความสำเร็จในการดำเนินยุทธศาสตร์ 3+1 และ Productivity Strategy ที่ส่งผลให้ธนาคารมีผลการดำเนินงานทางการเงินที่แข็งแกร่ง และความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมดิจิทัลสำหรับลูกค้ารายย่อย สามารถขับเคลื่อนธุรกิจอย่างมั่นคงท่ามกลางความไม่แน่นอนและความท้าทายทางเศรษฐกิจของไทย
รางวัลดังกล่าวตอกย้ำความสำเร็จของธนาคารกสิกรไทยที่สามารถครองความเป็นผู้นำบริการทางการเงินในมิติต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง อาทิ #1 ด้านบริการธนาคารดิจิทัลในประเทศไทย #1 ด้านกองทุนรวม (มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร) #1 ด้านบริการไพรเวทแบงก์กิ้ง (จำนวนลูกค้า) #1 ด้านบัตรเครดิต (ยอดการใช้จ่าย) #1 ด้านคะแนนความนิยมของแบรนด์ (Brand Net Promoter Score) และ K PLUS แพลตฟอร์มโมบายแบงก์กิ้งของธนาคาร ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในประเทศไทยกว่า 23 ล้านราย และรองรับธุรกรรมออนไลน์มากกว่าหนึ่งในสามของทั้งประเทศ
Go To Lead
|
กรุงศรี 'หนุน' Sustainability Expo 2025 ต่อเนื่องปีที่ 2
นางสาวมิ่งขวัญ พัฒนวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานบริหารแบรนด์และการตลาดองค์กร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปีนี้กรุงศรีได้กลับมาร่วมงาน SX2025 อีกครั้งด้วยความมุ่งมั่นในฐานะ ธนาคารชั้นนำแห่งภูมิภาคเพื่อความยั่งยืน ที่พร้อมขับเคลื่อนสังคมและธุรกิจไทยให้ก้าวสู่โลกอนาคตอย่างมั่นคง เราเชื่อว่าความยั่งยืนไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้ในชีวิตประจำวัน กรุงศรี และ MUFG พร้อมที่จะเดินเคียงข้างลูกค้าทุกกลุ่ม ตั้งแต่ลูกค้าบุคคล ธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงองค์กรระดับภูมิภาค ด้วยผลิตภัณฑ์การเงินที่ออกแบบมาตอบโจทย์การเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง เราหวังว่าการเข้าร่วมงานในปีนี้จะช่วยให้เราแบ่งปันองค์ความรู้ทางการเงินเพื่อความยั่งยืนได้กว้างขึ้น และอยากเชิญชวนทุกคนมาสัมผัสประสบการณ์เหล่านี้ร่วมกันที่บูธกรุงศรี ปีนี้กรุงศรีนำเสนอพื้นที่จัดแสดงภายใต้แนวคิด GO Sustainable with krungsri ที่ออกแบบอย่างใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยการนำโครงสร้างบางส่วนจากงานเดิมกลับมาใช้ซ้ำ (Reuse) และเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ถ่ายทอดแนวคิด หลักคิดหลักปฏิบัติ ด้านความยั่งยืนของธนาคารและบริษัทในเครือในมิติที่จับต้องได้ ภายในบูธผู้เข้าชมจะได้พบกับกิจกรรมอินเตอร์แอคทีฟที่ทั้งสนุกและให้ความรู้ ไม่ว่าจะเป็น เกมแยกขยะ เสริมทักษะการจัดการของเสียอย่างถูกวิธี โซนถ่ายภาพแชร์โซเชียล พร้อมรับของที่ระลึก Krungsri Reusable Bag รวมถึง นิทรรศการที่นำเสนอผลงานชนะเลิศจาก From Waste to Wow Sustainable Sculpture Contest 2025 by Krungsri ศิลปะสร้างสรรค์จากวัสดุรีไซเคิลที่สะท้อนพลังความคิดใหม่ของเยาวชน นอกจากนี้ยังมีการแนะนำ ผลิตภัณฑ์และบริการด้าน Sustainable Finance ที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งกรุงศรีต้องการสร้างพื้นที่ที่ผสานทั้งความรู้ ความบันเทิง และแรงบันดาลใจให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสการเงินเพื่อความยั่งยืนในทุกมิติ
กรุงศรียังได้นำเสนอนวัตกรรมด้านความยั่งยืนจากพันธมิตรธุรกิจ เพื่อสะท้อนพลังของ Partnerships & Ecosystem โดยได้คัดเลือกลูกค้าธุรกิจที่มีนโยบายด้านความยั่งยืนมาร่วมจัดแสดงผลิตภัณฑ์ในโซน Marketplace ขณะเดียวกันยังมี จุดติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ที่จัดแสดงในโซน Innovate Experience Station (พื้นที่ Marketplace) เพื่อแสดงให้เห็นถึงบทบาทของการมีส่วนร่วมในการส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานที่สนับสนุนการเดินทางคาร์บอนต่ำอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยศักยภาพและความพร้อมทั้งในเรื่องเครือข่ายและองค์ความรู้ที่ได้รับการสนับสนุนจาก MUFG สถาบันการเงินชั้นนำระดับโลก กรุงศรีจึงไม่เพียงสะท้อนบทบาทผู้ให้บริการทางการเงิน แต่ยังเป็น ผู้แบ่งปันองค์ความรู้ และ ร่วมกำหนดทิศทางเชิงนโยบาย ที่องค์กรธุรกิจสามารถนำไปใช้ได้จริง ตลอดการจัดงาน โดยมีผู้บริหารกรุงศรี และ MUFG ร่วมเวทีสำคัญ 2 รายการ ได้แก่
ดร. พิมพ์นารา หิรัญกสิ หัวหน้าทีมวิจัยเศรษฐกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) จะแชร์ความรู้ในหัวข้อ ธุรกิจไทยพร้อมแค่ไหน กับกฎหมายความยั่งยืนทั้งห่วงโซ่อุปทาน ในวันที่ 29 กันยายน 2568 เวลา 13.3014.00 น. ณ SX Talk Stage Mr. Colin Chen, Head of Sustainable Finance, Asia Pacific, MUFG จะร่วมในเวทีเสวนา Chief Sustainability Officers (CSO) Forum ในหัวข้อ Sustainability as an Engine for Growth ในวันที่ 4 ตุลาคม 2568 เวลา 14.0017.00 น. ณ ห้องประชุม 208 โดยสาระจากทั้งสองเวทีถูกออกแบบให้เชื่อมโยงกับโซลูชันทางการเงินของกรุงศรีโดยตรง ตั้งแต่การวิเคราะห์ความเสี่ยง ESG ในห่วงโซ่อุปทาน ไปจนถึงการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อสนับสนุนการลงทุนสีเขียว สะท้อนถึงบทบาทของกรุงศรีในการยกระดับความรู้จากไทยสู่ภูมิภาค
อีกหนึ่งกิจกรรมไฮไลต์คือการจัดประกวด From Waste to Wow Sustainable Sculpture Contest 2025 by Krungsri, รอบชิงชนะเลิศในวันที่ 26 กันยายน 2568 ซึ่งมีทีมเยาวชนมากความสามารถเข้ารอบสุดท้ายจำนวน 10 ทีม ผลงานทุกชิ้นล้วนถ่ายทอดแนวคิดการสร้างคุณค่าใหม่จากวัสดุเหลือใช้ สร้างเป็นงานศิลปะที่ทั้งสวยงามและเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ โดยผลงานที่ชนะเลิศจะได้รับการนำไปจัดแสดงที่บูธกรุงศรีตลอดงาน SX2025 เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสพลังความคิดสร้างสรรค์ของเยาวชนอย่างใกล้ชิด กิจกรรมนี้ไม่เพียงสร้างพื้นที่ให้เยาวชนได้แสดงออก แต่ยังเป็นเวทีที่ปลุกพลังสังคมให้ตระหนักถึงการจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน พบกับ บูธกรุงศรี และกิจกรรมเพื่อการเรียนรู้ด้านการเงินยั่งยืนได้ที่งาน Sustainability Expo 2025 (SX2025) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 กันยายน 5 ตุลาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
Go To Lead
|
BAM ลอนช์โครงการ ทรัพย์มหาชน เพื่อบ้านของคนสู้ชีวิต
ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM ผู้นำด้านบริหารสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ เปิดเผยว่า ความท้าทายจากสภาพเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน และที่อยู่อาศัยราคาแพงขึ้น รวมถึงรายได้ที่ไม่แน่นอนและอาชีพอิสระ เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการเข้าถึง บ้าน ของคนไทยจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะกลุ่มคนทำงานนอกระบบกว่า 20 ล้านคนที่ไม่มีรายได้ประจำหรือผู้ที่เพิ่งเริ่มทำงานและมีรายได้น้อย มักถูกมองว่าไม่มีศักยภาพทางการเงิน แม้จะมีรายได้จริงและสามารถผ่อนชำระได้ แต่กลับไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อจากสถาบันการเงิน ทั้งนี้ จากผลสำรวจตลาดที่อยู่อาศัย ไตรมาส 2/2568 จากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ พบว่า อัตราการถูกปฏิเสธสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยสูงสุดถึง 70% จากจำนวนการขอสินเชื่อ สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาผู้ซื้อบ้านรายได้น้อยและปานกลางที่เข้าถึงสินเชื่อได้ยาก แม้มาตรการภาครัฐจะผ่อนคลายเกณฑ์แล้วก็ตาม
ดังนั้น BAM จึงมุ่งเดินหน้าด้วยกลยุทธ์เชิงรุก ภายใต้แนวคิด Opportunities for Allมองเห็นโอกาส และเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ของชีวิต ด้วยการให้คนมีรายได้น้อยมีสิทธิ์เข้าถึงบ้านหลังแรกได้จริง โดยเปิดตัวโครงการ ทรัพย์มหาชน เพื่อบ้านของคนสู้ชีวิต สร้างโอกาสให้คนที่ไม่มีเงินเดือนประจำและมีรายได้ไม่แน่นอน หรือผู้ที่มีรายได้น้อยสามารถผ่อนบ้านตรงกับ BAM ขึ้นอยู่กับราคาที่อยู่อาศัย หรือปรับตามความเหมาะสมและศักยภาพรายได้ของผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการ
โครงการ ทรัพย์มหาชน เพื่อบ้านของคนสู้ชีวิต เหมาะสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่มีรายได้น้อยหรือรายได้ไม่แน่นอน กลุ่มอาชีพรับจ้าง ฟรีแลนซ์ คนขับรถ TAXI วินมอเตอร์ไซด์ รวมถึงกลุ่มที่ไม่มีบ้านเป็นของตัวเองหรือเช่าอยู่ โดยจุดเด่นของโครงการคือ ราคาบ้านจับต้องได้สามารถผ่อนชำระกับ BAM โดยตรง ทั้งทรัพย์ประเภท บ้าน ทาวน์เฮ้าส์ ห้องชุดพักอาศัย อาคารพาณิชย์ และที่ดินเปล่า ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท จองเริ่มต้นเพียง 1,000 บาท ผ่อนเริ่มต้นแค่เดือนละ 500 บาท ระยะเวลานาน 20 ปี ซึ่งในปีแรกคิดอัตรา ดอกเบี้ย 0% ปีที่ 2-3 ดอกเบี้ย 3% ปีที่ 4 เป็นต้นไป MRR BAM ตลอดอายุสัญญา
BAM เชื่อมั่นว่าโครงการทรัพย์มหาชน เพื่อบ้านของคนสู้ชีวิต จะสามารถตอบโจทย์ให้กลุ่มคนรายได้น้อยให้ก้าวข้ามอุปสรรคสำคัญของความต้องการมีบ้านได้อย่างแท้จริง ด้วยราคาที่ไม่แพง คนมีงบจำกัดสามารถจับต้องได้ และยังผ่อนตรงกับ BAM ได้เลยกับเงื่อนไขที่พิเศษมาก ๆ ทำให้ทุกคนเข้าถึงบ้านได้อย่างแท้จริง เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้น พร้อมช่วยเปิดประตูสู่ระบบการเงินและโอกาสที่กว้างขึ้น ดร. รักษ์ กล่าว
Go To Lead
|
กรุงศรี 'หนุน' Sustainability Expo 2025 ต่อเนื่องปีที่ 2
Go To Lead
|
[ENGLISH]
|