Finance/share
Hot News: กสิกรไทย 'รุก' AFTERKLASS Business KAMP
http://www.tviclick.com
Home Page iClick News.com
Home
Print this webpage
Print
English Version
English
กสิกรไทย 'รุก' AFTERKLASS
Business KAMP
กสิกรไทยเดินหน้าส่งเสริมศักยภาพเยาวชนไทยผ่านโครงการ “AFTERKLASS Business KAMP ปีที่ 6” แคมป์นวัตกรรมสุดเข้มข้น AFTERKLASS AI Hackathon: Youth for Good ที่เปิดเวทีให้เยาวชนอายุ 15–21 ปีบริบูรณ์ ที่มีทั้งไอเดียธุรกิจสุดสร้างสรรค์ด้วยพลังของ AI
นายรวี อ่างทอง ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายบูรณาการความยั่งยืนองค์การ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยเชื่อมั่นในพลังของเยาวชนไทย และมุ่งมั่นส่งเสริมการเรียนรู้ ผ่านการลงมือทำ และการใช้เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ เพื่อเติบโตเป็นแรงขับเคลื่อนสร้างการเปลี่ยนแปลงสังคมในอนาคตได้อย่างยั่งยืน จึงได้จัดกิจกรรม AFTERKLASS Business KAMP ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ภายใต้แนวคิด “Youth for Good: การช่วยเหลือกลุ่มผู้ด้อยโอกาสหรือกลุ่มเปราะบางในสังคมไทย” ได้แก่ เด็ก ผู้สูงอายุ สตรี คนพิการ และกลุ่มผู้ที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล เปิดโอกาสให้เยาวชนได้เรียนรู้การวิเคราะห์ปัญหาจริงจากประสบการณ์ของผู้ได้รับผลกระทบ และตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคม รวมไปถึงเรียนรู้การนำเสนอแนวคิด พร้อมออกแบบแนวทางแก้ไขโดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ธนาคารได้ร่วมมือกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในการมีผู้เชี่ยวชาญมาร่วมให้คำปรึกษาเชิงลึกและร่วมเป็นกรรมการตัดสินผลงานเยาวชนในกิจกรรม เพื่อให้เยาวชนได้เรียนรู้และพัฒนาต่อยอดไอเดียที่จะช่วยร่วมสร้างสังคมที่ดีกว่าไปด้วยกัน
การดำเนินกิจกรรมในโครงการ AFTERKLASS Business KAMP ปีที่ 6 จะประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก ได้แก่ ช่วงการแข่งขันรอบ Problem Cracking ตั้งแต่วันที่ 4-15 ตุลาคม 2568 เปิดโอกาสให้ 20 ทีมที่ผ่านการคัดเลือกได้เรียนรู้ วิเคราะห์ และพัฒนาแนวคิดนวัตกรรมจากปัญหาจริงในสังคม รวมทั้งได้รับประสบการณ์จริงในการนำเสนอไอเดียต่อคณะกรรมการในรูปแบบออนไลน์ เพื่อคัดเลือก 8 ทีมสุดท้ายเข้าสู่รอบ AI Hackathon
ช่วงการแข่งขันรอบ AI Hackathon ตั้งแต่วันที่ 27-29 ตุลาคม 2568 8 ทีมสุดท้ายที่ผ่านเข้ารอบจะได้ร่วมเวิร์กช็อปเข้มข้นเพื่อพัฒนา “นวัตกรรมทางสังคม” ที่ใช้เทคโนโลยี ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับบริบทของปัญหา โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายวงการ รวมถึง KBTG และกูรูจากวงการ AI ร่วมส่งต่อองค์ความรู้และประสบการณ์ ซึ่งในวันสุดท้ายเยาวชนทั้ง 8 ทีมจะได้นำเสนอไอเดียนวัตกรรมทางสังคมต่อหน้าคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
โครงการ AFTERKLASS Business KAMP ปีที่ 6 เปิดรับสมัครเยาวชนอายุระหว่าง 15–21 ปีบริบูรณ์ ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือระดับอุดมศึกษาชั้นปีที่ 1–2 โดยผู้สมัครต้องรวมทีม 3–4 คน และมีบทบาทในทีมให้ครบทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ 1) ผู้ผลักดันและสร้างโอกาสทางธุรกิจ (Business Opportunist) 2) ผู้ออกแบบโซลูชั่นและประสบการณ์ผู้ใช้งาน (Design & UX Savior) 3) ผู้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและปัญญาประดิษฐ์ (AI & Tech Builder) โดยไม่จำเป็นต้องมาจากสถาบันเดียวกัน
ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะต้องลงทะเบียนเป็นสมาชิกเว็บไซต์ AFTERKLASS ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความพิเศษที่เปิดพื้นที่ให้เยาวชนได้มีพื้นที่เพื่อเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง สำหรับกิจกรรมนี้ไม่เพียงมอบโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาไอเดียเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมได้แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ ทีมที่ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายรับทุนการศึกษาและประกาศนียบัตรจากธนาคารกสิกรไทย ผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครร่วมกิจกรรมได้ที่ www.afterklass.com และ Line OA: @AFTERKLASS ตั้งแต่วันนี้ จนถึง วันที่ 27 สิงหาคม 2568
นายรวี กล่าวตอนท้ายว่า โครงการ AFTERKLASS Business KAMP ปีที่ 6 ถูกออกแบบมาเพื่อส่งเสริมให้เยาวชนพัฒนาไอเดียนวัตกรรม ควบคู่กับการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI อย่างสร้างสรรค์ เพื่อช่วย ปลุกจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคม พร้อมเสริมทักษะการสร้างธุรกิจที่มีคุณค่า โดยเฉพาะการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางในประเทศไทย ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาอย่างแท้จริง สะท้อนถึงเจตนารมย์ ความมุ่งมั่น และวัฒนธรรมที่เข้มแข็งของธนาคารกสิกรไทย ในการเป็นธนาคารแห่งความยั่งยืนเสมอมา

Go To Lead


ธ.ก.ส.
เยี่ยมสาขาและให้กำลังใจพนักงาน อำนาจเจริญ-อุบลราชธานี
นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) พร้อมด้วยนายไพศาล หงษ์ทอง รองผู้จัดการ ธ.ก.ส. ลงพื้นที่เยี่ยมการปฏิบัติงานของพนักงานในสังกัดสำนักงาน ธ.ก.ส. จังหวัดอำนาจเจริญ ประกอบด้วย สาขาปทุมราชวงศา สาขาอำนาจเจริญ สาขาลืออำนาจ และสาขาม่วงสามสิบ สังกัดสำนักงาน ธ.ก.ส. จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อให้กำลังใจพนักงานที่ปฏิบัติงาน พร้อมทั้งติดตามการขับเคลื่อนงาน รวมถึง ให้คำแนะนำแนวทางการดำเนินงานผ่านโครงการและผลิตภัณฑ์สำคัญต่าง ๆ ของธนาคาร อาทิ มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา ผลิตภัณฑ์สินเชื่อ BCG Model วงเงินสินเชื่อ มูลค่ารวม 35,000 ล้านบาท สินเชื่อ คนเก่ง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ภาคีเครือข่าย เปิดโอกาสให้ผู้นำชุมชนเข้าถึงแหล่งเงินทุน วงเงินสูงสุด 100,000 บาท เริ่มปล่อยสินเชื่อเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2568
โครงการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพเกษตรกรที่เข้าร่วมมาตรการพักชำระหนี้เกษตรกรรายย่อย ระยะที่ 2 สินเชื่อเงินด่วนสิบหมื่น สินเชื่อเกษตรวิวัฒน์ และพบปะพูดคุยกับลูกค้า เพื่อสอบถามความคิดเห็นในการใช้บริการเพื่อนำไปพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการ อาทิ เงินฝากแก้วมรกต ฝากเริ่มต้นเพียง 2,000 บาท รับผลตอบแทนเป็นอัตราดอกเบี้ยและความคุ้มครองอุบัติเหตุสูงสุดถึง 25 เท่าของยอดเงินฝากคงเหลือ คุ้มครองสูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาท เงินฝากทองเอก รับดอกเบี้ยร้อยละ 1.60 ต่อปี พิเศษรับดอกเบี้ยล่วงหน้าเข้าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์คู่โอนทันทีในวันที่ฝากเงิน และสลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส.ชุดมังกรหยก หน่วยละ 100 บาท ลุ้นรางวัลใหญ่ 10 ล้านบาท 24 ครั้ง พร้อมลุ้นรางวัลพิเศษ 1 ล้านบาท เมื่อฝากครบ 1 ล้านบาท การันตีผลตอบแทนขั้นต่ำรวม 23,200 บาทตลอดอายุสลาก สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถฝากได้ทุกที่บนแอปพลิเคชัน BAAC Mobile และเคาน์เตอร์ ธ.ก.ส. ทุกสาขา ใกล้บ้าน

Go To Lead


ธนาคารกรุงเทพ ร่วมงานมหกรรมการเงินโคราช ครั้งที่ 19
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) นำโดยนางสาวพจณี คงคาลัย ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายลูกค้าบุคคล ให้การต้อนรับ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานเปิดงาน นายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และนายสันติ วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานจัดงาน และนางสาวภาคนี วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานจัดงานร่วมมหกรรมการเงิน Money Expo ในโอกาสให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดและเยี่ยมชมบูธธนาคารกรุงเทพ ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “It’s all connected with Bangkok Bank” เชื่อมต่อไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในทุกๆ มิติ ผ่านผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่หลากหลาย ในงานมหกรรมการเงินโคราช ครั้งที่ 19 (Money Expo Korat 2025)
นางสาวพจณี คงคาลัย ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายลูกค้าบุคคล ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ธนาคารกรุงเทพ ได้คัดสรรผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน เพื่อเข้าร่วมออกบูธในงานมกรรมการเงินโคราช ครั้งที่ 19 (Money Expo Korat 2025) ภายใต้แนวคิด “It’s all connected with Bangkok Bank” เชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์ ของลูกค้าในทุกๆ มิติ ให้ลูกค้าได้เข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินได้ง่าย สะดวก ปลอดภัย สามารถวางแผนชีวิตให้มีความยืดหยุ่นได้ทุกที่ ทุกเวลา เตรียมพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ เพื่อสร้างความมั่งคั่งและมั่นคงได้อย่างยั่งยืน อาทิ กลุ่มผลิตภัณฑ์ประกัน กองทุน และเงินฝากประเภทต่างๆ ซึ่งได้รับความสนใจจากลูกค้าในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดใกล้เคียง เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้สามารถวางแผนทางการเงินและสร้างความพร้อม เตรียมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ อาทิ สินเชื่อบ้าน สินเชื่อธุรกิจ สำหรับวางรากฐานของชีวิต รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์นักช็อปยุคใหม่อย่าง บัตรเครดิตและบัตรเดบิต Bangkok Bank M Visa เป็นต้น” นางสาวพจณี กล่าว
ลูกค้าและผู้ที่สนใจสามารถขอรับคำปรึกษาด้านการเงินและการลงทุนจากเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมรับโปรโมชันพิเศษได้ที่บูธธนาคารกรุงเทพ ภายในงานมหกรรมการเงินโคราช ครั้งที่ 19 (Money Expo KORAT 2025)

Go To Lead


กรุงศรี โกลบอลมาร์เก็ตส์ 'ชี้'เงินบาทแข็งค่าเล็กน้อย
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการ นโยบายการเงิน (กนง.) โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมติเป็นเอกฉันท์ ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี อยู่ที่ 1.50% ต่อปี หลังจากคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในการประชุมครั้งก่อนหน้าเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา การแถลงของ กนง. ประเมินเศรษฐกิจไทยในปี 2568 และ 2569 ขยายตัวใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้ที่ 2.3% และ 1.7% ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม มาตรการทางภาษีของสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบต่อปัญหาเชิงโครงสร้างและขีดความสามารถในการแข่งขัน แม้ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 เศรษฐกิจไทยขยายตัวดีจากการส่งออกกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ การเร่งส่งออกไปสหรัฐฯ และภาคการผลิต แต่คาดว่าในช่วงครึ่งหลังของปี เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มชะลอลงจากผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมของมาตรการทางภาษีสหรัฐฯ และจำนวนนักท่องเที่ยวกลุ่มระยะใกล้ที่ลดลงจากภาวะการแข่งขันในภูมิภาคที่รุนแรงขึ้น ปัจจัยเหล่านี้จะยิ่งส่งผลกระทบต่อรายได้ของกลุ่ม SME ลูกจ้าง และผู้ประกอบอาชีพอิสระ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำ นอกจากนี้ กนง. ยังระบุถึงการหดตัวของสินเชื่อ และคุณภาพสินเชื่อที่ลดลงอีกด้วย โดยเฉพาะสินเชื่อ SME และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย
เงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยไปอยู่ที่ 32.30 บาท/ดอลลาร์ หลังจาก กนง. ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย โดย กนง. ระบุว่าค่าเงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยลดลง สำหรับการประชุม กนง. ในครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นวันที่ 8 ตุลาคม 2568 โดยจากแถลงของ กนง. ในวันนี้มีท่าทีระมัดระวังอย่างชัดเจน โดยมองว่าควรผ่อนคลายนโยบายทางการเงินมากขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าสภาวะทางการเงินเอื้ออำนวยและช่วยลดภาระให้กับกลุ่มเปราะบาง ขณะเดียวกันจำเป็นต้องดูแลเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ กรุงศรี โกลบอลมาร์เก็ตส์คาดว่า กนง. จะลดดอกเบี้ยอย่างน้อยอีกหนึ่งครั้งลงไปอยู่ที่ 1.25% ก่อนสิ้นปี 2568 เนื่องจากแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัวลงและอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ

Go To Lead


[ENGLISH] 
  --  
iClickNews.com