e-Commerce/SMEs
Hot News: เพาเวอร์บาย ในเครือ เซ็นทรัล รีเทล เปิดเกมรุกปี 68 ด้วยมาตรการ “Easy E-Receipt 2.0”
http://www.tviclick.com
Home Page iClick News.com
Home
Print this webpage
Print
English Version
English
เพาเวอร์บาย ในเครือ เซ็นทรัล รีเทล
เปิดเกมรุกปี 68 ด้วยมาตรการ “Easy E-Receipt 2.0”
นายสุวิณ โกษีอํานวย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เพาเวอร์บาย จำกัด ในเครือ เซ็นทรัล รีเทล เปิดเผยว่า การจับจ่ายของผู้บริโภคช่วงต้นปี 2568 นี้ มีแนวโน้มคึกคักต่อเนื่องจากปลายปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะยาวจนถึงช่วงมาตรการ Easy E-Receipt 2.0 คาบเกี่ยวไปยังเทศกาลตรุษจีน และวาเลนไทน์ สำหรับปีนี้ เพาเวอร์บาย ยังคงขานรับนโยบายรัฐบาลเข้าร่วมโครงการ "Easy E-Receipt 2.0" เพื่อสร้างดีมานด์ปลุกกำลังซื้อ และร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยช่วงไตรมาสแรก พร้อมอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถเข้าร่วมโครงการได้ทุกช่องทาง ทั้งร้านเพาเวอร์บายทุกสาขาทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน นอกจากนี้เรายังเตรียมแคมเปญพิเศษต้อนรับตรุษจีน “เฮงรับปีมะเส็ง” ไว้เอาใจผู้บริโภคด้วยส่วนลด โปรโมชั่น และสิทธิพิเศษมากมากมาย เดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ปี 2567 มาตรการ Easy E-Receipt เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยสร้างแรงขับเคลื่อนให้ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าและมือถือไทยเติบโตอย่างชัดเจน ส่งผลให้มูลค่าการจับจ่ายในช่วง 2 เดือนแรกรวมกว่า 40,000 ล้านบาท สำหรับสินค้าที่ได้รับความนิยม 5 อันดับแรก ได้แก่ มือถือ, แอร์, ทีวี, ตู้เย็น และเครื่องซักผ้า โดยพื้นที่ที่ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเข้าร่วมโครงการสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพฯ ภาคเหนือ และภาคใต้ ในขณะเดียวกันมาตรการดังกล่าวยังเป็นแรงหนุนดันยอดขาย “เพาเวอร์บาย” เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2566 โดยมียอดใช้จ่ายเฉลี่ยต่อใบเสร็จราว 15,000 บาท”
ไม่เพียงเท่านี้ เพาเวอร์บาย ยังคงเดินหน้าดันยอดขายอย่างต่อเนื่อง จัดแคมเปญ “เฮงรับปีมะเส็ง” ตั้งแต่วันนี้ – 5 มีนาคม 2568 พบโปรโมชั่นสุดเฮง ได้แก่
ลุ้นรับฟรี! ทองคำ และบัตรแทนเงินสดเพาเวอร์บาย รวมมูลค่ากว่า 500,000 บาท รับส่วนลดเพิ่มรวมสูงสุด 50,000 บาท เมื่อช้อปตามเงื่อนไข โครงการ”เก่าแลกใหม่ เพื่อชีวิตที่ดีกว่า” เครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าแลกรับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 10,000 บาท ผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน พร้อมรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 35,000 บาท
สิทธิพิเศษบัตรเครดิต The1 และ CardX แลกคะแนนลดเพิ่มสูงสุด 27% ถึงวันที่ 2 ก.พ.68“เพาเวอร์บาย คาดว่ามาตรการ Easy E-Receipt 2.0 ในปีนี้จะได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา ผสานกับโปรโมชันที่ครอบคลุมทุกช่องทางจะช่วยสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่คุ้มค่า พร้อมตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างเต็มที่” นายสุวิณ กล่าวช้อปสินค้า และรับสิทธิประโยชน์สุดคุ้มได้ที่ เพาเวอร์บายทุกสาขา เว็บไซต์ www.powerbuy.co.th แอป http://bit.ly/PowerBuyApp โซเชียลมีเดีย Line @powerbuy เฟซบุ๊ก Power Buy หรือ คอลล์เซ็นเตอร์ 1324

Go To Lead


กรมพัฒนาธุรกิจฯ ผนึกกำลัง ICONCRAFT
ยกระดับสินค้าชุมชน สู่ Soft Power ระดับโลก
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เผยว่า นโยบายของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายพิชัย นริพทะพันธุ์) และ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายนภินทร ศรีสรรพางค์) ให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมและผลักดันสินค้าชุมชนของไทยให้เป็นที่รู้จัก และเป็นอัตลักษณ์ประจำถิ่นในแต่ละพื้นที่ รวมทั้งผลักดันให้เป็น Soft Power ที่สำคัญของประเทศ กรมฯ และ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด โดย ICONCRAFT ได้ร่วมกันหารือแนวทางการส่งเสริมในการยกระดับสินค้าชุมชนของไทย โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการนำ Soft Power อาทิ วัฒนธรรม ประเพณี และภูมิปัญญา มาผสมผสานกับผลิตภัณฑ์ชุมชน เพื่อสร้างเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและแตกต่าง โดยการเล่าเรื่องราวผ่านการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม การสร้างสรรค์สื่อการตลาดที่น่าสนใจ และการสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างให้กับผู้บริโภค เพื่อสร้างการรับรู้และความเชื่อมโยงระหว่างผู้บริโภคและชุมชน
โดยในปี 2568 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และ ICONCRAFT ได้วางแนวทางการส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ผ่านโครงการ Smart Local ME-D เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากผ่าน Soft Power ชูจุดขายสร้างรายได้ให้แก่คนในชุมชนได้อย่างยั่งยืน ต่อยอดความสำเร็จจากปี 2567 โดยใช้ต้นแบบเส้นทางตลาดผลิตภัณฑ์ชุมชน ‘พะ-มหา-นคร’ ซึ่งเป็นการรวบรวมผลิตภัณฑ์จาก 3 ภูมิภาค ได้แก่ 1) พะเยา มีดี เน้นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติและภูมิปัญญาจากชาวเขา 2) มหาสารคาม มีดี เน้นผลิตภัณฑ์หัตถกรรมและอาหารพื้นเมือง และ 3) นครศรีธรรมราช มีดี เน้นผลิตภัณฑ์จากทะเลและวัฒนธรรมท้องถิ่น เพื่อสร้างจุดแข็งและขยายตลาดให้กับผลิตภัณฑ์ชุมชนให้สามารถนำผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นไปสู่ตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการสร้าง Brand ผ่าน Storytelling บอกเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ชุมชนในแต่ละพื้นที่ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาใน 4 ด้าน คือ การสร้างแบรนด์ การเล่าเรื่องผ่านผลิตภัณฑ์ การจัดแสดงผลิตภัณฑ์ และการนำเสนอผลิตภัณฑ์/การเจรจาธุรกิจ โดยตั้งเป้าผลักดัน SMEs งานหัตถศิลป์ไทยรุ่นใหม่ที่มีความสร้างสรรค์ จำนวนไม่น้อยกว่า 50 ราย มาร่วมการจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใน ICONCRAFT
นอกจากนี้ ยังมีแผนจัดงานแสดงสินค้าในครึ่งปีแรก จำนวน 3 งาน คือ 1) เทศกาล Food Truck ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ - มีนาคม 2) งาน ICONIC CRAFT COFFEE FEST เดือนเมษายน 3) งาน SPA EVENT เดือนมิถุนายน เพื่อเปิดโอกาสในการขยายช่องทางการตลาดทั้งในประเทศและผลักดันสู่ตลาดต่างประเทศต่อไป กรมฯ ในฐานะคณะอนุกรรมการส่งเสริมภาพลักษณ์และการตลาดสมุนไพร พร้อมเดินหน้าเชิงรุกด้วยแนวคิด THINK Wellness Think Thai Herb ชูจุดเด่นผลิตภัณฑ์สมุนไพรควบคู่กับอาหารและเครื่องดื่มของไทย และผลิตภัณฑ์สปา เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มีความหลากหลายเพิ่มขึ้น เนื่องจากผลิตภัณฑ์สปา เป็นสินค้าที่มียอดขายเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาเยี่ยมชมและเลือกซื้อสินค้าใน ICONCRAFT
ทั้งนี้ กรมฯ มุ่งเน้นให้ผู้ประกอบธุรกิจ SMEs จดทะเบียนธุรกิจอย่างถูกต้อง เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างมีระบบ สามารถใช้สิทธิประโยชน์จากมาตรการต่างๆ ของทางรัฐได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เช่น มาตรการ Easy E-Receipt 2.0 ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม - 28 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งจะช่วยกระตุ้นยอดขาย โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์จากผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs รวมไปถึงการถ่ายทอดองค์ความรู้ในการบริหารจัดการธุรกิจแก่ผู้ประกอบการสตรีที่มีบทบาทสำคัญในงานศิลปหัตถกรรมชุมชน ห้างท้องถิ่น และเครือข่าย MOC Biz Club ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่อย่างยั่งยืน โครงการ Smart Local ME-D เป็นโครงการที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ โดยช่วยให้ผู้ประกอบการชุมชนสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์และสร้างแบรนด์ของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงยังเป็นการส่งเสริมให้ผู้บริโภคหันมาเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ชุมชนมากขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชนและประเทศชาติต่อไป อธิบดีอรมน กล่าวทิ้งท้าย

Go To Lead


[ENGLISH] 
  --  
iClickNews.com