Travel
Hot News: ทราเวลโลก้า-ททท. หนุน'เที่ยว'ภาคเหนือ
http://www.tviclick.com
Home Page iClick News.com
Home
Print this webpage
Print
English Version
English
ทราเวลโลก้า-ททท.
หนุน'เที่ยว'ภาคเหนือ
ทราเวลโลก้า (Traveloka) แพลตฟอร์มท่องเที่ยวแบบครบวงจรชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เดินหน้าผลักดันการท่องเที่ยวภาคเหนือ พร้อมรองรับความต้องการเดินทางภายในประเทศที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่และพื้นที่ใกล้เคียง
นายอัลเบิร์ต ผู้ร่วมก่อตั้งทราเวลโลก้า เปิดเผยว่า “การท่องเที่ยวภายในประเทศยังคงมีบทบาทสำคัญต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย และภาคเหนือถือเป็นภูมิภาคที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมและความหมายต่อผู้เดินทางอย่างยิ่ง การร่วมงานกับ ททท. จะช่วยเสริมการรับรู้ของนักท่องเที่ยว และทำให้การเดินทางสะดวกยิ่งขึ้น ผ่านการผสานจุดแข็งด้านทิศทางการท่องเที่ยวของประเทศเข้ากับศักยภาพด้านดิจิทัลของทราเวลโลก้า เรามุ่งมั่นสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนและพร้อมผลักดันผู้ประกอบการและชุมชนท้องถิ่นที่มีส่วนทำให้ปลายทางท่องเที่ยวมีความคึกคักและมีชีวิตชีวา”
ด้วยบริการครบวงจรตั้งแต่ตั๋วเครื่องบิน ที่พัก ไปจนถึงกิจกรรมท่องเที่ยว ทราเวลโลก้ายังคงเดินหน้าพัฒนาประสบการณ์การวางแผนทริปให้สะดวกและราบรื่นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือซึ่งเป็นภูมิภาคที่แพลตฟอร์มสามารถสร้างผลลัพธ์เชิงบวกให้กับผู้ประกอบการท้องถิ่น และช่วยให้ประสบการณ์ท้องถิ่นแท้จริงเข้าถึงนักเดินทางได้ง่ายขึ้น
ผลักดันการท่องเที่ยวภาคเหนือผ่านความร่วมมือกับ ททท.ความร่วมมือระหว่างทราเวลโลก้าและ ททท. ช่วยเสริมการนำเสนออัตลักษณ์โดดเด่นของภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ สอดคล้องกับแนวคิดการตลาดระดับโลกของ ททท. “Sense of Siam: A Journey to Total Wellbeing” ที่เน้นการท่องเที่ยวอย่างใส่ใจ สุขภาวะครบด้าน และการสัมผัสประสบการณ์วัฒนธรรมและชุมชนอย่างลึกซึ้ง
นอกจากนี้ ททท. ยังผลักดันการขยายเส้นทางบินภูมิภาคผ่านยุทธศาสตร์ “New Aviation Hub” ซึ่งช่วยเพิ่มการเข้าถึงภาคเหนือ โดยเส้นทางบินระหว่างประเทศใหม่ที่เชื่อมสู่เชียงใหม่ยิ่งทำให้เมืองนี้มีบทบาทในฐานะสนามบินรองและศูนย์กลางการเดินทางระดับภูมิภาค ขณะเดียวกัน ทราเวลโลก้าช่วยสนับสนุนด้านการค้นหาปลายทาง การมองเห็นในโลกดิจิทัล และการสร้างดีมานด์ผ่านแพลตฟอร์ม
นายขจรเดช อภิชาติตรากุล ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า “ความร่วมมือกับทราเวลโลก้าช่วยขยายศักยภาพในการโปรโมตการท่องเที่ยวภาคเหนือให้สอดคล้องตามยุทธศาสตร์ท่องเที่ยวของประเทศ ผ่านการสื่อสารดิจิทัลและแคมเปญเชิงกลยุทธ์ สามารถผลักดันการท่องเที่ยวคุณภาพ เพิ่มขีดความสามารถของภูมิภาค และสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจท้องถิ่นในจังหวัดต่าง ๆ ของภาคเหนือได้อย่างยั่งยืน”
ททท. ภูมิภาคภาคเหนือได้ดำเนินโครงการ Season of Relaxing @ North (คิดจะพัก...คิดถึงฤดูเหนือ) โดยนำเสนอสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวที่มีมูลค่าสูง อาทิ สินค้าทางการท่องเที่ยว Health and Wellness อาทิ โรงแรม/ที่พัก ผนวกกับกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เช่น สปาทรีตเมนต์ สปาน้ำแร่ การแช่ Onsen กิจกรรม Sound Healing อาหารเพื่อสุขภาพ ฯลฯ และงานคราฟท์ เช่น ผ้าทอมือ เครื่องเงิน ฯลฯ โดยร่วมมือกับพันธมิตรทางด้านท่องเที่ยว ได้แก่ ทราเวลโลก้า ซึ่งมีแนวทางและเป้าหมายนักท่องเที่ยวที่สอดคล้องกัน จึงจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในฤดูหนาว ภายใต้แคมเปญ Relaxing @ North มอบส่วนลด 15 % (สูงสุด 200 บาท) เมื่อจองโรงแรม/ที่พักและกิจกรรม ผ่านแพลตฟอร์มของทราเวลโลก้า ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2568 - 30 มีนาคม 2569 รวมถึงโปรโมชั่นในช่วงพิเศษในทุก ๆ เดือน เช่น ส่วนลดราคาพิเศษในเดือน 12.12 เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการประชาสัมพันธ์เส้นทางท่องเที่ยว โรงแรม/ที่พักผนวกกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงสุภาพ ผ่าน KOLs, Influencer เพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเกิดการเดินทางท่องเที่ยวและพักค้างเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ ได้มีพันธมิตรโรงแรม/ที่พัก และกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในภาคเหนือ ให้ความสนใจและเข้าร่วมมากกว่า 1,000 ราย
ภาคเหนือยังคงเป็นภูมิภาคที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ด้านวัฒนธรรม วิวทิวทัศน์ และอาหารพื้นเมือง ทราเวลโลก้าจึงคัดสรรประสบการณ์ที่สะท้อนเอกลักษณ์เหล่านี้ให้บนแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นอาหารพื้นเมืองล้านนา เวิร์กชอปงานหัตถกรรม ศูนย์เวลเนสที่คว้ารางวัลระดับโลก หรือกิจกรรมสายแอดเวนเจอร์ที่ได้รับความนิยม ด้านพันธมิตรอย่างโรงแรมฟลอรา ครีก เชียงใหม่ (กฤษฎาดอย) ซึ่งมอบประสบการณ์การเข้าพักท่ามกลางธรรมชาติและงานฝีมือท้องถิ่น นายสิทธิพงษ์ เนติพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงแรมฟลอรา ครีก กล่าวว่า “ความร่วมมือกับทราเวลโลก้าช่วยให้เราเข้าถึงนักท่องเที่ยวได้หลากหลายยิ่งขึ้นและเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น แม้จะอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่เรามองเห็นศักยภาพที่จะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวในอนาคต เพิ่มการมีส่วนร่วมกับบริการด้านเวลเนสและวัฒนธรรมของโรงแรม รวมถึงสนับสนุนการเติบโตทางด้านยอดขายและธุรกิจโดยรวม อีกทั้งความร่วมมือนี้ยังสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ร่วมในการยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนท้องถิ่นและเผยแพร่มรดกวัฒนธรรมล้านนาสู่ผู้คนจากภาคอื่น ๆ ในประเทศไทยและต่างประเทศ”
ความร่วมมือทั้งหมดนี้ได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากแคมเปญ 12.12 Super Sale ของทราเวลโลก้า ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3–12 ธันวาคม เพื่อเอื้อต่อการวางแผนทริปปลายปีของนักท่องเที่ยว โดยมอบส่วนลดสูงสุดถึง 50% สำหรับตั๋วเครื่องบิน โรงแรม และกิจกรรมท่องเที่ยว ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเดินทางไปยังจังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยม โดยเฉพาะจังหวัดภาคเหนือที่โดดเด่นทั้งวัฒนธรรมและธรรมชาติ ได้สะดวกและคุ้มค่ายิ่งขึ้น ขณะที่ทราเวลโลก้าและ ททท. เดินหน้าขับเคลื่อนความร่วมมือกับพันธมิตรด้านที่พัก สายการบิน และผู้จัดกิจกรรม ทั้งสององค์กรยังคงมุ่งมั่นสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น ส่งเสริมเมืองรอง และผลักดันการเติบโตอย่างยั่งยืนของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยต่อไป

Go To Lead


Dusit Central Park เปิดเทศกาลประดับไฟลอยฟ้า
“Legacy in Light เมื่อตำนานส่องแสง”
Dusit Central Park โครงการมิกซ์ยูสระดับโลก ภายใต้คอนเซ็ปต์ Here for Bangkok และ The Residences at Dusit Central Park โครงการที่พักอาศัยระดับอัลตร้าลักชัวรี่ใน Super Core CBD ย่านพระราม 4 – สีลม ร่วมส่งท้ายปีงูเล็กท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ กับงาน “Legacy in Light เมื่อตำนานส่องแสง” งานประดับไฟที่เชิญชวนให้ทุกคนเข้ามาสัมผัสความสวยงามของแสงไฟสุดตระการตาบนพื้นที่สวนดุสิตอรุณ ณ ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค สวนลอยฟ้าใจกลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยขนาดใหญ่ 7 ไร่ ที่สร้างประสบการณ์ใหม่แก่ผู้มาเยือน ระหว่างวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2568 ถึง 4 มกราคม พ.ศ. 2569 โดยมีไฮไลท์คือ Legacy in Light Show การแสดงประดับไฟนับล้านดวงทั่วทั้งสวน โชว์แสงสีและความสวยงาม ผสานเข้ากับแสงไฟยามค่ำคืนของใจกลางกรุงเทพฯ
พาทุกคนมาร่วมสร้างช่วงเวลาแห่งความสุขผ่านกิจกรรมพิเศษกับดนตรีในสวน โดยเชิญศิลปินมากมายมาร่วมขับร้องบทเพลงอันไพเราะ พร้อมเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มจากโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ 3 ธันวาคม คุณแอม เสาวลักษณ์, คุณกิต กิตตินันท์ และวงออเคสตร้าจากมหาวิทยาลัยศิลปากร 5 ธันวาคม วงออเคสตร้าจากมหาวิทยาลัยศิลปากร 12 ธันวาคม คุณโรส ศิรินทิพย์ และวงมายด์ นวินดา 19 ธันวาคม คุณโต๋ ศักดิ์สิทธิ์ และวงออเคสตร้าจากมหาวิทยาลัยศิลปากร 25 ธันวาคม คุณใหม่ เจริญปุระ และวงออเคสตร้าจากมหาวิทยาลัยศิลปากร
ภายในบริเวณงาน “Legacy in Light เมื่อตำนานส่องแสง” ยังได้ร่วมจัดแสดงพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งเป็นสภานายิกาของสภากาชาดไทย หน่วยงานที่กำกับดูแลโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย บริเวณพื้นที่อัฒจันทร์ดุสิตพินีด้วยจอ LED ขนาดใหญ่ ซึ่งรายได้ทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่ายจะนำมาร่วมสมทบทุนให้กับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ผู้ที่สนใจสามารถซื้อบัตรได้แล้ววันที่ได้ที่เพจ Facebook: Dusit Central Park หรือ https://www.ticketmelon.com/dusitcentralpark/LegacyinLight/

Go To Lead


ทีเส็บ 'เผย 'ไทยคว้าสิทธิ์จัดงานไมซ์นานาชาติขนาดใหญ่รวม 30 งาน
ดร. ศุภวรรณ ตีระรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานคว้าสิทธิ์จัดงานนานาชาติขนาดใหญ่ 30 งานในปีงบประมาณ 2568 สะท้อนวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ของทีเส็บและขีดความสามารถของประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพจัดงานไมซ์และเมกะอีเวนท์ระดับนานาชาติ การคว้าสิทธิ์เป็นเจ้าภาพการจัดงานเป็นข้อพิสูจน์ถึงความเชื่อมั่นที่นานาชาติมีต่อระบบนิเวศไมซ์ของไทย อีกทั้งยังตอกย้ำความมุ่งมั่นของทีเส็บในการใช้อุตสาหกรรมไมซ์เป็นกลไกขับเคลื่อนการพัฒนาเชิงวิชาชีพ ส่งเสริมการเติบโตภาคธุรกิจและเศรษฐกิจ รวมถึงการยกระดับภาพลักษณ์และบทบาทของประเทศไทยบนเวทีโลกในระยะยาว ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2568 (ตุลาคม 2567 – กันยายน 2568) ประเทศไทยคว้าสิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดงานระดับนานาชาติรวมทั้งสิ้น 30 งาน โดยจะมีผู้เข้าร่วมงานรวม 109,000 คน และคาดว่าจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ 9,845 ล้านบาท ความสำเร็จในการคว้างานระดับนานาชาติครอบคลุมทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรมไมซ์ ทั้งการประชุม (Meetings) การเดินทางเพื่อเป็นรางวัล (Incentives) การประชุมนานาชาติ (Conventions) การจัดแสดงสินค้า (Exhibitions) ตลอดจนงานเมกะอีเวนท์ (Mega Events) โดยในส่วนการประชุมและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล (MI) ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดงาน Amway Leadership Seminar ณ กรุงเทพมหานคร ในช่วงเดือนมีนาคม–เมษายน 2569 จะมีผู้เข้าร่วมจากสาธารณรัฐประชาชนจีนกว่า 10,000 คน สำหรับการประชุมนานาชาติ (C) งาน International Dragon Award Annual Conference 2027 ที่กรุงเทพฯ คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมจากต่างประเทศราว 7,500 คน ส่วนงานแสดงสินค้า (E) งาน Gastech 2026 ที่กรุงเทพฯ คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 50,000 คน ประเทศไทยยังได้รับสิทธิ์จัดงานเมกะอีเวนท์อีก 2 งาน โดยจังหวัดเชียงรายได้รับการยืนยันเป็นเจ้าภาพ Spartan SUPER World Championship ระหว่างปี 2569–2571 คาดว่าจะมีนักกีฬาและผู้เข้าร่วมรวม 60,000 คน จาก 50 ประเทศทั่วโลก ส่วนอีกงานคือ Tough Mudder ที่พัทยา คาดว่าจะดึงดูดผู้เข้าร่วมงานราว 16,000 คน
นอกจากนี้ ยังมีงานประชุมนานาชาติอีกหลายรายการ ซึ่งแต่ละงานคาดว่าจะดึงดูดผู้เข้าร่วมจากต่างประเทศมากกว่า 1,000 คน อาทิ WBC Annual Convention ครั้งที่ 63 และ WBC Muaythai Convention ครั้งที่ 1 รวมกันคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมประมาณ 2,000 คน การประชุมสหพันธ์สมาคมเภสัชกรรมแห่งเอเชีย ครั้งที่ 31 (FAPA 2026) คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมประมาณ 2,000 คน การประชุม Asian Pacific Orthodontic Congress (APOC 2028) คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมราว 1,200 คน และงานประชุม World Society for Reconstructive Microsurgery 2029 (WSRM 2029) คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมประมาณ 1,500 คน
“การได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมนานาชาติในอีกสี่ปีข้างหน้า รวมถึงงาน WSRM 2029 แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนานาชาติที่มีต่อประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางไมซ์ชั้นนำ ความสำเร็จนี้สะท้อนถึงระบบนิเวศไมซ์ที่มีการทำงานร่วมกันอย่างเข้มแข็ง ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจได้ว่าการจัดงานต่างๆ จะตอบสนองต่อความต้องการทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอได้ ตัวอย่างเช่น งาน Gastech ที่เกิดจากความร่วมมือกับกระทรวงพลังงาน และงาน Amway Leadership Seminar ที่ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นำเสนอโปรแกรม ‘Slow Living of Bangkok’ เพื่อให้ผู้เข้าร่วมค้นพบกรุงเทพฯ ในมุมมองใหม่ ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงศักยภาพของประเทศไทยที่ได้รับความไว้วางใจ มีความเป็นมืออาชีพ และมีมาตรฐานระดับโลก ขณะเดียวกัน การที่จังหวัดเชียงรายได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน Spartan SUPER World Championship ต่อเนื่องระหว่างปี 2569–2571 ยังตอกย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในการรองรับการจัดงานระดับนานาชาติในพื้นที่นอกเมืองหลักได้เป็นอย่างดี” ดร. ศุภวรรณ กล่าวทิ้งท้าย

Go To Lead


TRAVEL INSIGHT
ป้อมชาวประมง 'จุดชมวิวสุดปัง'
ณ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ตอนที่ 4

เรื่องและภาพ นักเดินทาง

วันนี้นักเดินทางนั่งรถไปเที่ยวป้อมชาวประมง Fisherman’s Bastion สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง โลเคชั่นอยู่ฝั่งเปสต์ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
การเดินทางขึ้นเขาไปชมสถานที่ท่องเที่ยว ป้อมชาวประมงนั้น วันอาทิตย์รถรางจะหยุดบริการ เราเลยต้องเปลี่ยนการเดินทางด้วยรถบูดาเปสต์ คาสเซิล บัสแทน ด้วยการซื้อตั๋วเหมารถเที่ยวไปและกลับแทน คนละ 6,000 ฟอรินท์ HUF นำเที่ยวจุดคนได้ประมาณ 10 คนขึ้นไป พอคนเต็มรถก็จะออกจากท่าที่จอดด้านล่าง วิ่งไต่ระดับความสูงของภูเขาขึ้นไปเรื่อยๆ
พอถึงจุดแรกพวกเราก็ลงรถเดินเที่ยว ตามสถานที่สำคัญต่างๆ มีพิพิธภัณฑ์ แกลลอรี่ ร้านค้า เรียงรายสองฝั่งถนน อาคารถูกสร้างอย่างเป็นระเบียบ มีการตกแต่งด้วยต้นไม้ สีสันสดใส ดูสวยงาม ตลอดที่เราเดินเที่ยวชม จากนั้นก็เดินไปเรื่อยๆ จนเจอกับโบสถ์ มีประวัติศาสตร์เก่าแก่
นักท่องเที่ยวเดินมาถ่ายรูปแถวนี้กันจำนวนมาก ต่อจากจุดนี้ นักเดินทางก็เดินต่อไปเรื่อยๆ เจอจตุรัสที่มีนักท่องเที่ยวเดินกันขวักไขว่ และเป้าหมายต่อไปของเรา คือ ป้อมชาวประมง แหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของเหล่าชาวประมงที่ลุกขึ้นมาต่อสู้กับข้าศึก ที่เข้ามารุกราน
ป้อมชาวประมงถูกดีไซน์ให้มีหน้าต่างเป็นช่องๆ แต่ละช่องสามารถชมวิวด้านล่างที่สวยงาม ช่วงที่เราไปถึงนั้นมีนักท่องเที่ยวเข้าไปช่วงชิงพื้นที่เพื่อถ่ายรูปกันแถมทุกช่อง วิวทิวทัศน์ดูสวยงาม "วิว 100 ล้าน มองเห็นอาคารบ้านเรือน แม่น้ำดานูบที่อยู่เบื้องล่าง" เราถ่ายรูปแล้ว ก็เดินขึ้นไปชมด้านบน มองเห็นวิวทิวทัศน์อันกว้างใหญ่ของบ้านเมือง
ขณะที่นักเดินทางกำลังเดินไปชมจุดชมวิว ก็เห็นชาวพื้นเมืองนั่งบนเก้าอี้สูง มีนกเหยี่ยวตัวโตเกาะอยู่บนแขน นักท่องเที่ยวที่เดินผ่านไปมา ก็ส่งเสียงตื่นเต้น...บางคนเข้าไปขอถ่ายรูปคู่กับนกเหยี่ยวตัวโต คงเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่สร้างรายได้ให้กับชาวพื้นเมืองพอสมควร ในวันที่นักท่องเที่ยวจำนวนมาก
ส่วนอีกมุมหนึ่ง ก็เป็นผู้หญิงท้วม แต่งตัวแบบแฟนซี น่ากลัว...และมีชายหนุ่มอีกคนแต่งตัวแบบแฟนซีเหมือนกัน มีช่างภาพคอยถ่ายรูปให้ตลอดเวลา ทำให้นักท่องเที่ยวที่เดินผ่านไปมา ต้องหันไปดูเหมือนกัน
เมื่อนักเดินทางเดินเล่นจนเหนื่อย ก็ไปนั่งพักที่ร้าน Star Buck ขวัญใจของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ช่วงที่นั่งจิบช็อคโกแลตร้อน หันไปมองมีชายคนหนึ่งยืนนิ่งเหมือนหุ่น ไม่ขยับ เรียกความสนใจให้นักท่องเที่ยวไม่น้อยทีเดียว
ร้าน Star Buck สาขานี้ ใจดี เข้าห้องน้ำฟรี ส่วนใหญ่ถ้าเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ หรือแหล่งชุมชน ในเมืองบูดาเปสต์ นักท่องเที่ยวต้องจ่ายค่าเข้าห้องน้ำ คนละ 50 เซนต์ ใครเข้าห้องน้ำบ่อยก็ต้องจ่ายบ่อยหน่อย
เรานั่งเล่นกันที่ร้าน Star Buck สักพัก ก็เริ่มเดินไปถ่ายรูปต่อที่จุดชมวิวอีกครั้ง ต้องรอจังหวะคนน้อย เราก็รีบถ่ายรูปเก็บภาพสวยๆมาฝากผู้อ่าน จากนั้นก็เดินไปที่ร้านขายของที่ระลึก มีของพื้นเมืองขายเต็มไปหมด
และเราก็เหลือบไปมองเห็นตู้เหรียญที่ระลึก ตั้งเด่นอยู่ตรงเบื้องหน้า ใครอยากได้เหรียญที่ระลึกไว้ ก็ต้องใช้เหรียญฟอรินท์หยอดเข้าไปแล้วหมุน เหรียญที่ระลึกก็จะหล่นออกมา ให้เราเก็บไว้
ต่อจากนั้นนักเดินทางก็เดินกลับไปตรงจุด ที่รถจะวนมารับพวกเรา มีคนยืนรอพอสมควร เรารอคนต่อไปที่ว่างหน่อย แล้วขึ้นไปนั่ง รถก็วิ่งจากยอดเขาลัดเลาะไปตามทาง ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง แต่เราหมดแรงเดินแล้ว เลยนั่งมาเรื่อยๆ ระยะทางขากลับค่อนข้างไกลกว่าขาขึ้น ดูวกวน แต่ทำให้เราได้ชมวิวทิวทัศน์สองข้างทางอย่างสบายอารมณ์
จวบจนรถค่อยๆแล่นมาจอดตรงจุดหมายปลายทาง พวกเราก็ลงจากรถ พร้อมความประทับใจที่ได้ไปสัมผัสป้อมชาวประมง สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์อันสวยงาม...

Castle Hill Fisherman’s Bastion
ทัศนียภาพอันงดงามแม่น้ำดานูบและซีกเมืองด้านตะวันออกของบูดาเปสต์ เราชมวิวได้จากระเบียงสไตล์นีโอโกธิค ณ จุดสูงสุดของเขตพื้นที่ Castle Hill Fisherman’s Bastion จุดชมวิวที่โดดเด่นและมีความงดงามพอๆ กับทิวทัศน์ที่นำเสนอ ป้อมปราการพร้อมป้อมปืนสีขาวตั้งตระหง่านอยู่ที่ส่วนบนสุดของพื้นที่ Castle Hill
ป้อมปราการนี้มีพื้นที่ลานระเบียงขนาดใหญ่ที่กลมกลืนเข้ากันกับสไตล์นีโอโกธิคและสไตล์ฟื้นฟูโรมาเนสก์ เดินเล่นบริเวณรอบๆ ลานระเบียงเพื่อชมส่วนประกอบอันวิจิตร อาทิ หอคอยทั้งเจ็ดที่เป็นสัญลักษณ์แทนชนเผ่ามอยอร์แห่งศตวรรษที่ 9 ชมอนุสาวรีย์ที่อุทิศให้แด่พระเจ้าสตีเฟ่นที่ 1 แห่งฮังการี รูปปั้นของกษัตริย์นักบุญผู้นี้ประทับอยู่บนม้าเหนือภาพบรรยายเรื่องราวชีวิตหลากหลายตอนของพระองค์ ขึ้นบันไดและเดินไปตามทางเดินที่อ้อมรอบสถานที่ ต้นไม้เรียงรายอยู่ตามด้านข้างลานระเบียง ซึ่งถูกสร้างขึ้นในลักษณะที่กลมกลืนกับภูเขา
ภายในโบสถ์เซนต์ไมเคิล โบสถ์ใต้ดินแห่งยุคกลางที่ถูกค้นพบในระหว่างการก่อสร้างภายในพื้นที่ ไปเยือนโบสถ์ Gothic Matthias แห่งศตวรรษที่ 14 ที่อยู่ติดกัน ครั้งหนึ่ง ที่นี่ถือได้ว่ามีโครงสร้างที่ใหญ่และมีความสำคัญมากที่สุดในอาณาจักรฮังการียุคกลาง ไปชมสิ่งของจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ศิลปะ Ecclesiastical ที่บอกเล่าเรื่องราวความงามที่เกี่ยวข้องกับประวัติทางศาสนาของฮังการี คอลเล็กชันนี้ครอบคลุมผลงานแกะสลักหินและเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ของยุคกลาง สร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 โดย Frigyes Schulek หลังจากที่ถูกทำลายเสียหายอย่างหนักในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 บุตรชายของสถาปนิกเจ้าของผลงานก็ได้วางแผนการสร้างใหม่ขึ้น
ลานระเบียงและส่วนอื่นๆ อีกหลายส่วนของอาคารเปิดตลอดเวลา ส่วนที่เหลือของ Fisherman’s Bastion เปิดเฉพาะเวลากลางวัน ในวันที่ฝนตก บริเวณทางเดินที่มีหลังคาคลุม มีการคิดค่าธรรมเนียม แต่จะได้รับการยกเว้นในฤดูหนาว Fisherman’s Bastion มีที่ตั้งในระยะที่สามารถเดินถึง เมื่อเดินไปทางด้านตะวันตกจากแม่น้ำดานูบในบูดาเปสต์ตอนกลาง เดินขึ้นไปทางเหนือจาก Buda Castle เป็นระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะถึงจุดชมวิวที่มีลักษณะเป็นลานระเบียง เดินทางมาเยือนโดยรถไฟใต้ดินที่ Batthhy?ny t?r สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียง ได้แก่ พระราชวัง Sandor และสะพาน Sz?chenyi Chain

[ENGLISH] 
  --  
iClickNews.com