|
ททท. 'ปลุก' เที่ยวขนหัวลุก
ททท. ลุ้น งานเทศกาลขนหัวลุก ความเชื่อ ความศรัทธาของคนไทยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว กิจกรรมมุ่งเน้นการสร้างความประทับใจ สู่ท่องเที่ยวยังแหล่งต้นทาง
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ททท. ได้ดำเนินโครงการเทศกาลตลาดวัฒนธรรมไทยด้านความเชื่อ จะเป็นการรวบรวมเรื่องราวของวัฒนธรรมไทยด้านความเชื่อ ความศรัทธา รวมทั้ง องค์ความรู้ที่สืบทอดจากบรรพบุรุษ มาต่อยอดกิจกรรมที่ให้ความรู้และความสนุกสนาน เพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยการสร้างสีสันบรรยากาศของการจัดงานในรูปแบบเมืองศิลปะ (Art City) นำเสนอศิลปะแสงเสียงด้วยอุปกรณ์และเทคนิคสื่อผสมสมัยใหม่ เพื่อให้เป็นรูปแบบงานที่สนุกตื่นเต้นสวยงาม ผสมผสานกับความทันสมัย โดยจะเนรมิตพื้นที่ 18,000 ตารางเมตร ให้เป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความลี้ลับและความสนุกสนานแบบไทยที่ชวนให้มาพิสูจน์
นายก่อพงศ์ สุทธิกรณ์ หัวหน้าสำนักงานจัดหาพัสดุซ่อมบำรุง ผู้แทนผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า มีความรู้สึกยินดีที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการจัดงาน เทศกาลขนหัวลุก ในครั้งนี้ ถือว่า รฟท. ได้มีส่วนร่วมสนับสนุนให้เกิดการกระตุ้นการท่องเที่ยวของไทย ภายใต้แนวคิดเกี่ยวกับความเชื่อของคนไทย ซึ่งการเลือกโรงงานมักกะสัน การรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นสถานที่จัดงานมีความเหมาะสม ทั้งในด้านประวัติความเป็นประวัติศาสตร์ที่ยาวนานมากกว่า 100 ปี และยังเป็นต้นกำเนิดความรุ่งเรืองของกิจการรถไฟไทย ซึ่ง รฟท. เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าจะสร้างความประทับใจให้กับผู้ร่วมงาน สามารถนํานักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการท่องเที่ยว ด้านความเชื่อ ความศรัทธา สู่การเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวต้นทาง และเชื่อมโยงไปยังแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงอื่นๆ ได้อย่างแน่นอน
เทศกาลขนหัวลุก แบ่งพื้นที่เป็น 9 สาย ได้แก่ สายบูชา เป็นการจัดแสดงนิทรรศการพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของไทย 5 ภูมิภาค และกิจกรรมการประมูลพระนาคปรกจำลองของการรถไฟ มีการออกร้านให้เช่าบูชาพระเครื่องจากภาคต่างๆ ร้านพระกรุ ร้านพระเหรียญ ร้านพระบูชา ร้านพระยอดนิยม ร้านพระใหม่มาแรง ร้านเครื่องรางของขลัง สายมู เป็นพื้นที่สำหรับผู้ที่สนใจในการเสริมความเป็นศิริมงคล โชคชะตา มีกิจกรรมดูฮวงจุ้ย ดูดวงด้วยตัวเลข ลายมือ ดวงชะตา ราศี สัมผัส ไพ่ ใบไม้ จำหน่ายต้นไม้มงคล ศาลพระภูมิ สังฆภัณฑ์ ร้านเครื่องประดับมู ร้านดอกไม้พวงมาลัย เทียนหอม สายอาสา พื้นที่ทำกิจกรรมและนิทรรศการโดยมูลนิธิโพธิภาวนาสงเคราะห์และมูลนิธิร่วมกตัญญู ซึ่งสามารถร่วมทำบุญกับทั้ง 2 มูลนิธิได้เช่นกัน สายเพลิน สนุกสนานกับกิจกรรมงานวัดแบบดั้งเดิม อาทิ ชิงช้าสวรรค์ ยิงปืนจุกน้ำปลา ปาลูกโป่ง สาวน้อยตกน้ำ พร้อมพิเศษกิจกรรม แต่งผี ฟรีเครื่องเล่น อีกด้วย สายบุญ ร่วมทำบุญ สวดมนต์ ฟังเทศน์ จากพระภิกษุวัดดิสหงษาราม (วัดมักกะสัน) ขอพรจากหลวงพ่อนาคปรก ซึ่งเจ้าหน้าที่ในโรงงานมักกะสันให้ความเคารพศรัทธา เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและให้พรสมตามความปรารถนา สายสยอง ลานกิจกรรมที่ชวนให้ขนลุกกับการสาธิตการละเล่นชวนสยองและการเล่าเรื่องลี้ลับต่างๆ
อาทิ กิจกรรมเปิดตำนานลี้ลับ 10 ที่เที่ยวไทย เช่น พระพุทธรูปพูดได้ วัดศรีชุม จังหวัดสุโขทัย ผีจ้างหนัง ตำนานพญานาค คำชะโนด จังหวัดอุดรธานี ตำนานยักษ์วัดแจ้ง และยักษ์วัดโพธิ์ วัดโพธิ์ ท่าเตียน กรุงเทพฯ ตำนานพญากอบ ถ้ำเล เขากอบ จังหวัดตรัง ฟังตำนานนางตะเคียง กิจกรรมสาธิต การเล่นผีถ้วยแก้ว กิจกรรมทางผีผ่าน 33 เมตรวัดใจสุดสยอง กลุ่ม 3 คน ตะเกียง 1 ดวง กับเส้นทาง 33 เมตร ที่จะวัดว่าจิตแข็งแค่ไหน สายกิน พบกับร้านอาหารริมทางยอดนิยม ขนมงานวัด ขนมโบราณ อาหารไทยพื้นบ้าน อาหารงานประเพณี เครื่องดื่มสมุนไพร ชิมลูกชิ้นยันต์อาหารพิเศษเพื่อเทศกาลนี้โดยเฉพาะ บนลูกชิ้นลงยันต์ นะลือชา ปรุงด้วยน้ำซุปปลุกเสกผสมด้วยน้ำมนต์ 9 วัด และต้มด้วยหม้อลงยันต์มงคล (นะโภคทรัพย์ ยันต์จัตตุโร ยันต์เศรษฐี) สายย่อ ชมการแสดงดนตรีไทยร่วมสมัย ดนตรีเปิดหมวก การแสดงดนตรีจากศิลปิน การแสดงวัฒนธรรม และสายพิเศษ ชมโรงเก็บรถไฟประวัติศาสตร์ โรงงานมักกะสัน อาคารเก่าแก่ที่มีเอกลักษณ์อายุกว่า 100 ปี อีกทั้งยังเป็นสถานที่เก็บหัวรถจักรไฟฟ้าสำคัญ ซึ่งจะได้เรียนรู้ถึงประวัติศาสตร์หน้าสำคัญในการพัฒนาการคมนาคมของประเทศไทย
กิจกรรมครั้งนี้ว่า เทศกาลขนหัวลุก จัดขึ้นในวันที่ 27-29 พฤษภาคม 2565 เวลา 15.00 - 22.00 น. ณ โรงงานมักกะสัน การรถไฟแห่งประเทศไทย ผู้ที่ลงทะเบียนเข้างานผ่านระบบ QueQ สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป 35,000 ท่านแรก จะได้รับสายสิญจ์ปลุกเสกโดยเจ้าประคุณสมเด็จธงชัย (วัดไตรมิตร) รับได้ที่หน้างาน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ TAT Contact Centre โทร. 1672 Travel Buddy
Go To Lead
|
Thailand Yacht Show 2022
มร. แอนดี้ เทรดเวลล์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวอร์เวนเทีย จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดเรือยอร์ชในประเทศของไทยมีศักยภาพที่จะเติบโตอย่างมากในทุกมิติ ตั้งแต่การเช่าเหมาลำเรือซุปเปอร์ยอร์ช การเดินทางท่องเที่ยวแบบวันเดียวกลับไปจนถึงการฝึกแล่นเรือใบ เราได้ยินจากผู้แสดงสินค้าและพันธมิตรทางธุรกิจรายเดิม ๆ ที่เคยร่วมงานแสดงเรือยอร์ชกับทางเรามาตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมาซึ่งทุกรายต่างตื่นเต้นต่อการเติบโตของตลาดภายใน พร้อมกล่าวเสริมถึงผลพลอยได้ทางเศรษฐกิจในบริเวณอ่าวไทยทั้งทางตรงและทางอ้อมที่อาจได้รับอย่างมหาศาลจากการท่องเที่ยวทางเรือยอร์ช
สืบเนื่องจากข้อจำกัดทั้งหมดในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วงสองปีที่ผ่านมา เราต้องงดการจัดงานแสดงเรือยอร์ชที่มีมาอย่างยาวนานในประเทศไทยและสิงคโปร์ ซึ่งทั้งสองงานนั้นเป็นงานที่ทั้งผู้ที่ชื่นชอบการแล่นเรือยอร์ชและในส่วนของภาคธุรกิจต่างรอคอย ดังนั้น เราจึงตั้งตารอการจัดงานที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทยในปีนี้ และรู้สึกเป็นเกียรติที่มีองค์กรอันทรงเกียรติอย่างบริษัท แอกซ่าประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมเป็นพันธมิตรหลัก ซึ่งผมเชื่อว่าทั้งสองบริษัทจะได้ทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์ของทั้งสองฝ่ายต่อไปอีกในอนาคต และผมต้องขอขอบคุณผู้สนับสนุนรายอื่น อาทิ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) โอเชียน มารีน่า ยอร์ช คลับ โรงแรมเรเนซองส์ พัทยา รีสอร์ท แอนด์ สปา บริษัท อินเตอร์ มีเดีย คอนซัลแตนท์ จำกัด (บางกอก มอเตอร์ เอ็กซ์โป) พร้อมด้วยสื่อพันธมิตร เพราะหากไม่ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรเหล่านี้การจัดงานในปีนี้คงไม่สามารถเกิดขึ้นได้
มร. เทรดเวลล์ กล่าว
มร. โคลด เซนย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอกซ่าประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ เวอร์เวนเทีย ในฐานะผู้สนับสนุนการประกันภัยอย่างเป็นทางการของงาน Thailand Yacht Show 2022 การได้เป็นส่วนหนึ่งของงานอันทรงเกียรตินี้ถือเป็นความภาคภูมิใจของพวกเราทุกคนที่แอกซ่าประกันภัย งาน Thailand Yacht Show เป็นแพลตฟอร์มที่สมบูรณ์แบบในการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ประกันภัยของเราและขยายเครือข่ายธุรกิจของเราในกลุ่มผู้เข้าชมงานและผู้คร่ำหวอดในแวดวงอุตสาหกรรมเรือยอร์ช ด้วยความร่วมมือครั้งนี้ เราคาดหวังให้เกิดการรับรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่เต็มรูปแบบของเรามากยิ่งขึ้นซึ่งครอบคลุมไปถึงงานศิลปะคอลเล็กชั่นส่วนตัว เรือยอร์ช วิลล่า และไลฟ์สไตล์สุดหรู นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสให้เราตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเป็นพันธมิตรกับลูกค้าตลอดจนภาพลักษณ์ของแบรนด์คุณภาพที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์และบริการประกันภัยของเรา
เวอร์เวนเทีย มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมเรือยอร์ชในเอเชีย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย เนื่องจาก มร. เทรดเวลล์ และทีมงานของเขาเชื่อว่าประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่เหมือนใครที่สามารถดึงดูดเจ้าของเรือซุปเปอร์ยอร์ชทั่วโลกให้มาเยี่ยมเยียนได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวของฝั่งทวีปยุโรปเมื่ออากาศหนาวเย็นเกินไปที่จะเที่ยวในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน จากความพยายามของบริษัทฯ ในช่วงหกปีที่ผ่านมาในที่สุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้อนุมัติให้มีการเปลี่ยนแปลงกฎข้อบังคับเกี่ยวกับใบอนุญาตการเช่าเหมาลำซุปเปอร์ยอร์ชซึ่งขณะนี้อนุญาตให้ซุปเปอร์ยอร์ชต่างชาติเกือบทั้งหมดสามารถเช่าเหมาลำได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายในประเทศไทย
แทนที่จะต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากมูลค่าของเรือยอร์ช ตอนนี้เรือซุปเปอร์ยอร์ชจะจ่ายเพียงภาษีรายได้จากค่าเช่าเรือเท่านั้น ทั้งนี้ ใบอนุญาตการเช่าเหมาลำแรก ๆ ภายใต้กฎข้อบังคับใหม่นี้ได้ออกให้กับ เวอร์เวนเทีย ในนามของเรือซุปเปอร์ยอร์ชต่างชาติซึ่งจะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยตลอดฤดูหนาวหน้า เป็นที่คาดการณ์ว่านักท่องเที่ยวกลุ่ม UHNWI หลายหมื่นคนที่จะเดินทางมากับเรือซุปเปอร์ยอร์ชจากสหรัฐอเมริกา ยุโรป และตะวันออกกลางกำลังมองหาจุดหมายปลายทางใหม่สำหรับการล่องเรือช่วงวันหยุดในฤดูหนาวเพื่อเป็นทางเลือกแทนการล่องเรือในแถบแคริบเบียน พวกเขาไม่สามารถมาที่ประเทศไทยหรือประเทศอื่นในเอเชียได้จนถึงขณะนี้เนื่องจากข้อห้ามในการเช่าเหมาลำซึ่งเป็นแหล่งรายได้จำเป็นสำหรับเจ้าของเรือในการช่วยลดต้นทุนค่าบำรุงรักษาซุปเปอร์ยอร์ชได้บ้างบางส่วน
เวอร์เวนเทีย ยังได้ทำงานร่วมกับรัฐบาลซาอุดิอาระเบียในช่วงเก้าเดือนที่ผ่านมาโดยเป็นผู้ให้คำปรึกษาเชิงกลยุทธ์ในการจัดทำโครงการท่องเที่ยวทางเรือยอร์ชในบริเวณพื้นที่ใกล้กับทะเลแดงที่ถูกพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วเนื่องจากการล่องเรือยอร์ชส่วนใหญ่ที่ต้องการเดินทางไปยังเอเชียในช่วงฤดูหนาวจะต้องผ่านทะเลแดง ดังนั้น Jeddah Yacht Club & Marina แห่งใหม่ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของโครงการที่เป็นจุดแวะพักที่สมบูรณ์แบบระหว่างการเดินทางและเป็นจุดหมายปลายทางระดับเฟิร์สคลาสในตัวของมันเอง อีกทั้ง ความเข้าใจอันดีกันทางการเมืองระหว่างประเทศ (Entente Cordiale) ที่เกิดขึ้นใหม่ระหว่างซาอุดิอาระเบียและไทยช่วยให้งาน Amazing Thailand Roadshow ที่ซาอุดีอาระเบียเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาและงาน Saudi-Thai Investment Forum ที่ทั้งสองงานต่างต้องการดึงดูดกลุ่มคนระดับ UHNWI ที่ร่วมกันสร้างชุมชนเจ้าของซุปเปอร์ยอร์ช และการเช่าเหมาลำนำมาซึ่งโอกาสในการส่งเสริมการท่องเที่ยวทวิภาคีของ 'The Spice Route' (เมดิเตอร์เรเนียน - ทะเลแดง - มหาสมุทรอินเดีย - ทะเลอันดามัน - อ่าวไทย)
ที่ผ่านมาประเทศไทยให้การต้อนรับเรือซุปเปอร์ยอร์ชน้อยกว่า 1% ต่อปีของจำนวนซุปเปอร์ยอร์ช ทั่วโลกแต่ปัจจุบันได้อยู่ในฐานะที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวของกลุ่มการท่องเที่ยวแบบหรูหรานี้ได้ ซึ่งกลายเป็นตลาดที่เติบโตหลังเกิดการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีการเติบโตเร็วที่สุดของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
การเติบโตของตลาดซุปเปอร์ยอร์ชทั่วโลกในอนาคตจะมาจากภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือที่อยู่ใกล้กับพัทยาและอ่าวไทย แคมเปญการตลาดเชิงสร้างสรรค์พร้อมด้วยการสนับสนุนทางการเงินที่เหมาะสมสามารถขยายการเติบโตได้ทำให้มีศักยภาพที่จะดึงดูดซุปเปอร์ ยอร์ชมากกว่า 200 ลำภายในปีพ.ศ. 2569 ซึ่งจะสามารถสร้างเม็ดเงินอย่างน้อย 1 ล้านเหรียญสหรัฐต่อเรือยอร์ชหนึ่งลำ (จากค่าใช้จ่ายในการดำเนินกิจการ รายได้จากภาษีเช่าเหมาลำ และค่าใช้จ่ายในท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องต่อปี) กระจายเข้าสู่เศรษฐกิจในประเทศโดยตรงและนั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้น หากเรือยอร์ชสามารถอยู่ได้ตลอดทั้งฤดูกาล เรือแต่ละลำจะใช้จ่ายโดยเฉลี่ย 5 ล้านเหรียญสหรัฐไม่นับการใช้จ่ายของแขกผู้เช่าเหมาลำซึ่งพวกเขาเองก็เป็นกลุ่มคนที่มั่งคั่งที่สุดในโลกมร. เทรดเวลล์ กล่าว
เรือซุปเปอร์ยอร์ช (คือเรือที่มีความยาวมากกว่า 30 เมตรขึ้นไป) ปัจจุบันประกอบด้วยเรือยอร์ช ประมาณ 5,600 ลำโดยเรือยอร์ชขนาดใหญ่กว่า 70 - 90 เมตรมีอัตราการเติบโตสูงสุดตามสัดส่วนของจำนวนเศรษฐีที่ร่ำรวยระดับโลกที่เพิ่มขึ้น ตลาดเช่าเหมาลำเรือยอร์ชทั่วโลกมีมูลค่า 10.91 พันล้านเหรียญสหรัฐในปีพ.ศ. 2563 และคาดว่าจะเติบโตที่อัตราการเติบโตต่อปี (CAGR) ที่ 25.6% ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2563 ถึงปีพ.ศ. 2571
Go To Lead
|
[ENGLISH]
|