Travel
Hot News: TRAVEL INSIGHT by นักเดินทาง/ เยือน 'มหาวิหารเซนต์ สตีเฟ่น -สัมผัสเหล่าฮีโร่' ณ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี EP 1 //ทีเส็บ 'ชู' SPICE UP THAI FEST
http://www.tviclick.com
Home Page iClick News.com
Home
Print this webpage
Print
English Version
English
ทีเส็บ 'ชู' SPICE UP
THAI FEST
ทีเส็บ จับมือพันธมิตรหลัก ได้แก่ ททท. DITP การบินไทย ลอนช์แคมเปญ “SPICE UP THAI FEST” เพื่อดึงดูดนักเดินทางจากทั่วโลกเข้าร่วมงานเฟสติวัลในประเทศไทย ผ่านเครือข่ายร้านอาหารไทยทั่วโลก (Thai Restaurant Global Network) และเป็นเครือข่ายในการสื่อสารประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมอัตลักษณ์ความเป็นไทย 14 สาขา
ด้วยกลยุทธ์ Influencer Marketing ซึ่งเข้ามามีบทบาทสำคัญในโลกการสื่อสารยุคปัจจุบัน พร้อมทั้งเครือข่ายร้านอาหารไทยทั่วโลกนับเป็นตัวแทนประเทศไทยที่จะบอกเล่าความเป็นไทยรวมถึงงานเฟสติวัลไทยให้เป็นที่รู้จักในเวทีโลก จึงนำมาสู่ความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่างหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนที่พร้อมส่งเสริมและยกระดับงานเฟสติวัลไทยสู่สายตานานาชาติ ผ่านแคมเปญ Spice Up Thai Fest มอบตั๋วเครื่องบินไป-กลับจากสายการบินไทย รวม 55 ที่นั่ง เปิดโอกาสให้ผู้โชคดีได้มาสัมผัสประสบการณ์เฟสติวัลและอัตลักษณ์ความเป็นไทย 14 สาขาในประเทศไทยอย่างแท้จริง โดยตั้งเป้า 14 พื้นที่นำร่อง ได้แก่ ออสเตรเลีย กัมพูชา ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น ลาว มาเลเซีย จีน ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ไต้หวัน และเวียดนาม
ดร. ศุภวรรณ ตีระรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า “SPICE UP THAI FEST” คือการเดินทางครั้งใหม่ของอุตสาหกรรมไมซ์ไทยที่แสดงให้เห็นถึงพลังของความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และพันธมิตรทั่วโลกในการใช้พลังของอาหารไทย วัฒนธรรมไทยและเครือข่ายร้านอาหารไทยทั่วโลกเป็นเครื่องมือเชื่อมโยงผู้คน ความรู้ และโอกาสใหม่ ๆ เข้าด้วยกัน ในยุคที่การสื่อสารเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เราไม่ได้เพียง “จัดงานเทศกาล” แต่เรากำลังเชื่อมโยงการสื่อสารผ่านร้านอาหารไทย ซึ่งได้กลายเป็นจุดศูนย์กลางของแฟนเบสที่หลงใหลในอาหารไทย ศิลปวัฒนธรรมไทยและวิถีชีวิตแบบไทยทั่วโลก.และการใช้งานเทศกาลเป็นกลไกช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยและช่วยยกระดับงานเทศกาลของไทยให้เป็นงานระดับโลก รวมทั้งช่วยสร้างเอกลักษณ์ของประเทศให้เป็นจุดขายทั้งของอุตสาหกรรมไมซ์และการท่องเที่ยวบนเวทีโลก”
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “อาหารไทยและเทศกาลไทย ถือเป็นประตูบานแรกสู่การสัมผัสวัฒนธรรมไทยอย่างลึกซึ้ง แคมเปญ Spice Up Thai Fest มีบทบาทสำคัญในการถ่ายทอดเสน่ห์ของประเทศไทย ผ่านประสบการณ์จริงในร้านอาหารไทยทั่วโลก ซึ่งจะช่วยสร้างการรับรู้ ความผูกพัน ความประทับใจ และสามารถกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติให้บรรลุเป้าหมาย 36 ล้านคนภายในปี 2569 อันเป็นการสนับสนุนนโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศตามนโยบายรัฐบาล”
นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า “ร้านอาหารไทยที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT นอกจากจะเป็นกลไกในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหารไทยในตลาดโลกแล้ว ยังเป็นช่องทางสำคัญในการเผยแพร่อัตลักษณ์อาหารไทย และส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศในด้านต่างๆ ซึ่งการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในแคมเปญ SPICE UP THAI FEST ที่นำร่องกิจกรรมผ่านร้าน Thai SELECT ในหลายประเทศนั้น จะเป็นการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้เกี่ยวกับงานเฟสติวัลในประเทศไทยให้กับกลุ่มเป้าหมายในต่างประเทศได้เป็นอย่างดี”
นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การบินไทยมีความยินดีที่ได้สนับสนุนแคมเปญที่จะช่วยสร้างประสบการณ์เทศกาลไทยในระดับนานาชาติ ผ่านเครือข่ายพันธมิตรทั่วโลกและรางวัลสำหรับร้านอาหารและผู้บริโภค ตอกย้ำบทบาทของไทยในฐานะศูนย์กลางวัฒนธรรมและความภาคภูมิใจระดับโลก”
สำหรับแคมเปญ Spice Up Thai Fest ลูกค้าเพียงรับประทานอาหารที่ร้านอาหารไทยในต่างประเทศที่เข้าร่วมโครงการ พร้อมสแกน QR Code ณ ร้านอาหารที่เข้าร่วม เพื่อเข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ www.SpiceUpThaiFest.tceb.or.th และร่วมกิจกรรมโดยถ่ายภาพพร้อมบรรยายความรู้สึกกับอาหารไทยและอัตลักษณ์ความเป็นไทย และเช็คอินบนแพลตฟอร์ม ก็มีโอกาสได้รับตั๋วเครื่องบินไป-กลับจากสายการบินไทย รวมกว่า 55 รางวัล เพื่อมาร่วมสัมผัสประสบการณ์งานเฟสติวัลไทยในประเทศไทย โดยสามารถร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2568 – 18 มกราคม 2569 พร้อมประกาศผู้ได้รับรางวัลบนแพลตฟอร์มในวันที่ 22 มกราคม 2569 สามารถติดตามรายละเอียดแคมเปญได้ที่ www.SpiceUpThaiFest.tceb.or.th

Go To Lead



TRAVEL INSIGHT
เยือน 'มหาวิหารเซนต์ สตีเฟ่น -สัมผัสเหล่าฮีโร่' ณ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี

เรื่องและภาพ นักเดินทาง

           

"เหง่งหง่างๆๆๆ"
เสียงระฆังตีดังกึกก้อง ในยามเช้า นักเดินทางกำลังเดินชมมหาวิหารอันเก่าแก่ 'มหาวิหารเซนต์ สตีเฟ่น' (St. Stephen's Basilica) ซึ่งตั้งตระหง่านระหว่างเมืองใหม่และเมืองเก่า Old Town ตัดกับถนนช้อปปิ้ง VACI STREET ณ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
กระแสลมช่วงฤดูใบไม้ร่วง ย่างเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว ลมพัดความหนาวเย็นมาสัมผัสกับร่างกายของนักเดินทาง ในขณะที่กำลังยื่นอยู่เบื้องหน้า 'มหาวิหารเซนต์ สตีเฟ่น' (St. Stephen's Basilica)รู้สึกสัมผัสได้กับความศักด์สิทธิ์ ความอลังการของมหาวิหารแห่งนี้ ซึ่งเป็นมหาวิหารที่สำคัญและใหญ่ที่สุด ณ เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
มหาวิหารแห่งนี้สร้างขึ้น เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่เซนต์สตีเฟน กษัตริย์องค์แรกของประเทศฮังการี อาคารมหาวิหารดีไซน์สไตล์นีโอคลาสสิก ผสมผสานกับศิลปะนีโอเรอเนซองก์ มีความสูง 96 เมตร จัดว่าเป็นสิ่งปลูกสร้างที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่ควรค่าแก่การมาเยือน
สำหรับช่วงเวลาการก่อสร้าง ใช้เวลาก่อสร้างยาวนานกว่า 54 ปี ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1851 และแล้วเสร็จในปี ค.ศ. 1905 มหาวิหารแห่งนี้ สามารถบรรจุคนได้มากกว่า 8,500 คน และ
"ยิ่งใหญ่จริงๆ"
นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมภายในมหาวิหาร เพื่อสัมผัสความโอ่อ่าอลังการและสถาปัตยกรรมที่งดงามด้านใน แต่ต้องเสียเงินเข้าชม เริ่มต้นที่ 2,400 ฟอรินท์ (huf)สำหรับการเข้าชมมหาวิหาร หากต้องการขึ้นไปชมวิวบนโดมและคลังสมบัติจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โดยค่าเข้าชมส่วนระเบียงชมวิวและคลังสมบัติคือ 4,300 ฟอรินท์ (huf) และหากต้องการเข้าชมทั้งมหาวิหารและจุดชมวิว/คลังสมบัติในใบเดียวจะมีราคา 6,200 ฟอรินท์ (huf) เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปีเข้าชมฟรี
สำหรับบรรยากาศรอบๆ นักเดินทางเดินสำรวจบริเวณลานกว้างด้านหน้า และรอบๆ พบว่ามีร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านไอศครีม และร้านค้าต่างๆ โดยเฉพาะร้านขายไอศครีมปล่องน้ำตาล ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์อีกอย่างหนึ่งของเมืองบูดาเปสต์ ร้าน CHIMNEY CAKE SHOP ตั้งอยู่ข้างๆกับมหาวิหาร สังเกตง่าย คือ ร้านติดกับสถานที่จองเข้าชมมหาวิหาร
"ขายดีมาก คนเข้าแถวเพียบ" ร้านนี้มีคนเข้าแถวซื้อชิมกันตั้งแต่ช่วงเช้า
ในช่วงฤดูหนาว เทศกาลสำคัญของที่นี่ นั่นคือ เทศกาลคริสต์มาส มหาวิหารเซนต์สตีเฟนจะมีการประดับตกแต่งที่สวยงาม และมีการจัดงานเทศกาลคริสต์มาส บริเวณใกล้เคียง มหาวิหารแห่งนี้
นักเดินทางเดินเล่น ถ่ายรูปหลายมุมแล้ว และได้แวะไปชิมไฮครีมปล่องน้ำตาล อีกไฮไลท์ของบูดาเปสต์ เมื่อเราเดินเที่ยวกันสักพัก ก็ออกเดินทางต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่น่าสนใจ นั่นคือ จัตุรัสวีรบุรุษ Hero's Sqaure และแกลเลอรีศิลปะ
จัตุรัสวีรบุรุษ Hero's Sqaure และแกลเลอรีศิลปะ
จัตุรัสนี้ ตั้งอยู่ปลายถนนอันดราสซี (Andr?ssy Avenue) ติดกับสวนสาธารณะวาโรสลีก (City Park หรือ V?rosliget) จัตุรัสสร้างขึ้นในปี 1896 เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 1,000 ปี ช่วงปี ค. ศ. 896–1896 โดยออกแบบโดย Albert Schickedanz และสถาปนิก F?l?p Herzog มิลเลนเนียมโมนูเมนต์คือเสาคอรินเธียนสูง 36 เมตร ด้านบนประดับรูปเทพเจ้าอาร์คแองเจิลแกเบรียล (Archangel Gabriel) ถือมงกุฎและไม้กางเขน ด้านล่างเป็นรูปปั้นผู้นำชนเผ่า แห่งเผ่าแมกยาร์ Magyars 7 คน และผู้นำระดับชาติที่สำคัญของฮังการีคนอื่นๆ รวมถึง Memorial Stone of Heroes ซึ่งมักเรียกกันผิด ๆ ว่าสุสาน ของทหารนิรนาม
ประติมากรรม & รูปปั้น รอบฐานเสาและซุ้มโคโลเนดมีประติมากรรมสูงสุด 14 ชิ้น ได้แก่นักรบผู้ก่อตั้งรัฐ และกษัตริย์หรือบุคคลสำคัญ เช่น เซนต์สตีเฟ่น (Stephen I) ลาดิสลอส (Ladislaus I) และโคลอแมน (Coloman) เป็นต้น รูปปั้นส่วนใหญ่สร้างโดย Gy?rgy Zala และ Gy?rgy Vastagh
ความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เป็นสถานที่จัดพิธีสำคัญ เช่น การฝังศพใหม่ของ Imre Nagy ผู้นำในการลุกฮือ ปี ค. ศ. 1956 (ค. ศ.1989) ยังใช้จัดการชุมนุมทางการเมืองหลายครั้ง และเป็นเวทีสาธารณะใหญ่ใจกลางเมือง
จัตุรัสนี้รวมเป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลก “Andr?ssy Avenue and the Underground” ตั้งแต่ปี ค. ศ.1987 บริเวณใกล้เคียงมี พิพิธภัณฑ์วิจิตรศิลป์ (Museum of Fine Arts) และพระราชวังแห่งศิลปะ (M?csarnok) ที่ท้ายถนน ทั้งยังเป็นจุดขึ้นรถไฟใต้ดินสายแรกของยุโรปแผ่นดินใหญ่ (Millennium Underground, 1896)
เราไปเยือนศูนย์กลางของเหล่าฮีโร่ ในวันที่อากาศเย็นสบาย...เมื่อเราไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ ภาพที่ปรากฎต่อหน้านักเดินทาง ก็คือ รูปปั้นสีเขียวขนาดใหญ่ กษัตริย์ที่เก่งกาจ ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ด้านข้างมีรูปปั้นเหล่าฮีโร่ หัวหน้าชนเผ่าต่างๆ ที่สำคัญ ยืนเรียงรายกันอย่างสง่างาม
"โอ้โฮ! รูปปั้นดูอลังการ"
รูปปั้นเหล่าฮีโร่ แอ็คชันในมาดต่างๆ กำลังขี่ม้าบ้าง ถืออาวุธบ้าง แสดงถึงความเก่งกล้า กล้าหาญของเหล่าฮีโร่เหล่านั้น นักเดินทางเดินสำรวจรูปปั้นไปเรื่อยๆ จากด้านหน้าไปด้านข้าง ขวา ซ้าย จัดว่าเป็นศิลปะงานปั้นที่ยิ่งใหญ่ และสวยงาม ดูน่าเกรงขาม
นอกจากนี้เมื่อนักเดินทางหันไปมองทางขวา และซ้าย จะพบกับพิพิธภัณฑ์วิจิตรศิลป์ (Museum of Fine Arts) และพระราชวังแห่งศิลปะ (M?csarnok) อยู่ใกล้กับจัตุรัสฮีโร่เหล่านี้ ส่วนด้านท้ายถนนยังเป็นจุดขึ้นรถไฟใต้ดินสายแรกของยุโรปแผ่นดินใหญ่ (Millennium Underground, 1896)
"สถานีรถไฟนี้เก่าแก่มาก ไม่มีบันไดเลื่อน มีแต่บันได ให้เราเดินขึ้น-ลง" แต่ก็เป็นการออกกำลังกายที่ดี
เมืองบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี วันนี้ ได้เปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวทั่วโลก เดินทางมาท่องเที่ยว เมืองหลวงนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย อยู่ใกล้ๆกัน เดินเที่ยว ปั่นจักรยาน นั่งรถไฟใต้ดิน หรือรถราง ได้หมด
เมืองบูดาเปสต์ หรือไข่มุกแห่งแม่น้ำดานูบ ทั้งฝั่งเมืองเก่าและเมืองใหม่ มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ทั้งมหาวิหาร ปราสาท พระราชวัง อนุเสาวรีย์ต่างๆ พิพิธภัณฑ์และแกลเลอรีศิลปะ ตลาดสด ล้วนบ่งบอกถึงสถาปัตยกรรม ศิลปะ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวยุโรปกลาง ที่น่าสนใจศึกษาอีกประเทศหนึ่งทีเดียว


CHIMNEY CAKE SHOP

ซิกเนเจอร์สำหรับทริปนี้ นักเดินทางขอแนะนำ ร้านดัง CHIMNEY CAKE SHOP ตั้งอยู่ข้างๆกับมหาวิหาร สังเกตง่าย คือ ร้านติดกับสถานที่จองเข้าชมมหาวิหาร
ร้านนี้ขายเค้กปล่องน้ำตาล หน้าร้านโชว์ภาพไอศครีมเค้กปล่องน้ำตาล ออริจินัล รสวนิลาและข็อคโกแลต ดูโดดเด่นสะดุดตาทีเดียว ไอศครีมเค้กปล่องน้ำตาล มีให้เลือกหลากหลายรส ทั้งวนิลา ช็อคโกแลต สตรอเบอรี่ เป็นต้น ลูกค้าต้องไปเข้าแถว เลือกไอศรีมว่าจะชิมรสไหน แล้วเลือกปล่องน้ำตาลด้วยว่า ชอบแบบไหน?
"ไอศครีมเค้กปล่องน้ำตาล ราคา 3,000 ฟอรินท์ (huf) ไอศครีม 500 ฟอรินท์ (huf)" ประมาณ 350 บาท
พวกเราเลือกที่จะชิมไอศครีมเค้กปล่องน้ำตาล ออริจินัล "อร่อยจัง" เนื้อไอศครีมนุ่ม วนิลาหวานตัดกับความขมนิดๆของเนื้อช็อคโกแลต
นั่งชิมไป ชมวิวทิวทัศน์ บรรยากาศในเมืองยามเช้า ก็เพลินตาเพลินใจ แถมอิ่มท้องอีกด้วย


[ENGLISH] 
  --  
iClickNews.com