Insurance
Go to  i click
Hot News: ผุด “แคร์คัฟเวอร์ สหคลินิก” ดูแลรักษา มนุษย์เงินเดือน
http://www.tviclick.com
Home Page iClick News.com
Home
Print this webpage
Print
English Version
English
ผุด “แคร์คัฟเวอร์ สหคลินิก”
ดูแลรักษา มนุษย์เงินเดือน
ฟูเชีย เวนเจอร์ จับมือ ร.พ.จักษุรัตนิน เปิดบริการ“แคร์คัฟเวอร์ สหคลินิก” รับแนวโน้มที่เติบโตของประกันสุขภาพ และสิ่งที่ตามมาคือความต้องการในการเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพและสะดวกสบาย เราจึงเห็นโอกาสในการเข้ามาตอบโจทย์ในจุดนี้ ทั้งลูกค้าประกันชีวิตและบุคคลทั่วไป เล็งขยายสาขาเพิ่มในกรุงเทพฯ และปริมณฑล
นายสาระ ล่ำซำ บริษัท เมืองไทย กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด และกรรมการ บริษัท ฟูเชีย เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด (Fuchsia Venture Capital) เปิดเผยว่า แนวโน้มที่เติบโตของประกันสุขภาพและสิ่งที่ตามมาคือความต้องการในการเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพและสะดวกสบาย เราจึงเห็นโอกาสในการเข้ามาตอบโจทย์ในจุดนี้ทั้งสำหรับลูกค้าประกันชีวิตและบุคคลทั่วไป อย่างไรก็ตามเราดีใจเป็นอย่างมากที่ได้โรงพยาบาลจักษุ รัตนิน ซึ่งมีประสบการณ์และเชี่ยวชาญในด้านธุรกิจสถานพยาบาลและมีวิสัยทัศน์ที่ตรงกัน มาช่วยกันสร้างแคร์คัฟเวอร์ สหคลินิก ขึ้นมา ต่อไปเราพร้อมจะขยายสาขา “แคร์คัฟเวอร์ สหคลินิก” ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพิ่มขึ้น
นางสาวนาเดีย ผู้บริหาร “แคร์คัฟเวอร์ สหคลินิก” เปิดเผยกับ ไอคลิกนิวส์ดอทคอม ว่า เราจะนำนวัตกรรมด้านการแพทย์ มาใช้กับ “แคร์คัฟเวอร์ สหคลินิก” เพื่อบริการลูกค้า ทั้งลูกค้าประกันชีวิตและบุคคลทั่วไป ปัจจุบันกลุ่มคนทำงานมีปัญหาเรื่องสุขภาพ โรคออฟฟิศซินโดรม ดังนั้น การเปิด“แคร์คัฟเวอร์ สหคลินิก” ซึ่งเป็นการรักษาแบบปฐมภูมิ จะเป็นการส่งเสริมและรักษาด้านสุขภาพภาพให้ลูกค้ามากขึ้น
นางสาววรัดดา รัตนิน รองประธานกรรมการ โรงพยาบาลจักษุ รัตนิน กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีที่ได้ผนึกกำลังร่วมเป็นพันธมิตรกับฟูเชีย เวนเจอร์ แคปิทัล โรงพยาบาลจักษุ รัตนิน เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางตาแห่งแรกและให้บริการควบคู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน วันนี้เราได้ก้าวสู่การให้บริการในด้านการรักษาระดับปฐมภูมิ (Primary Care) เพื่อช่วยให้คนไทยสามารถเข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพและสะดวกมากยิ่งขึ้น เราเชื่อว่า แคร์คัฟเวอร์ สหคลินิก จะสามารถก้าวขึ้นเป็นสหคลินิกที่มีคุณภาพและเป็นตัวเลือกแรกของใครหลาย ๆ คน”
นางสาวฤทัย สุทธิกุลพานิช กรรมการ บริษัท เมืองไทยรัตนิน จำกัด แสดงความมั่นใจถึงโอกาสในการเติบโตของธุรกิจสุขภาพโดยเฉพาะการรักษาระดับปฐมภูมิ (Primary Care) ในประเทศไทย กล่าวว่า “แคร์คัฟเวอร์ สหคลินิก จัดตั้งขึ้นตามวิสัยทัศน์ของบริษัท ฟูเชีย เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด และ โรงพยาบาลจักษุ รัตนิน ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของการรักษาระดับปฐมภูมิ (Primary Care) เพราะการรักษาระดับปฐมภูมิ มีความสำคัญอย่างมาก และถือเป็นการดูแลสุขภาพด่านแรก ซึ่งเป็นการรักษาทั้งโรคทั่วไป การป้องกัน และการส่งเสริมสุขภาพ เพื่อจัดการกับโรคที่ไม่รุนแรงและแก้ไขปัญหาสุขภาพได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อช่วยป้องกันและ ลดความเจ็บป่วยที่อาจเกิดขึ้นได้รวมถึงช่วยลดค่าใช้จ่ายที่จะตามมา วันนี้เราได้มีการเปิดให้บริการสาขาแรกและเรามีแผนที่จะขยายสาขาอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการของเราได้มากขึ้น”
แพทย์หญิงเชอรี่วิน คงมา ผู้อำนวยการคลินิก บริษัท เมืองไทยรัตนิน จำกัด กล่าวว่า “แคร์คัฟเวอร์ สหคลินิก สาขาแรก เราให้บริการทั้งในด้านเวชกรรมและกายภาพบำบัด โดยในด้านเวชกรรม บริการจะครอบคลุมการดูแลรักษาโรคทั่วไปและโรคเรื้อรัง รวมไปถึงการส่งเสริมและป้องกันสุขภาพ เช่น การตรวจสุขภาพ การฉีดวัคซีนประจำปี และการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ เป็นต้น ทั้งนี้ทางแคร์คัฟเวอร์ สหคลินิก มีวิสัยทัศน์ว่าแพทย์ประจำคลินิกจะเปรียบเสมือนแพทย์ส่วนตัวของคนไข้และผู้มารับบริการทุกคน ดังนั้นหากมีความจำเป็นที่จะต้องส่งต่อคนไข้ไปรักษาต่อในโรงพยาบาลหรือเพื่อพบแพทย์เฉพาะทาง คลินิกจะทำหน้าที่ประสานงานกับโรงพยาบาลปลายทางเพื่อให้กระบวนการการดูแลและรักษาคนไข้มีความต่อเนื่องและสมบูรณ์ที่สุด ในด้านกายภาพบำบัด เราเน้นการดูแลรักษาโรคระบบกระดูกและกล้ามเนื้อเช่น กลุ่มอาการที่เกิดจากการทำงานหรือ Office Syndrome“
“โดยในทุก ๆ บริการเราจะมุ่งเน้นไปที่การดูแลสุขภาพแบบองค์รวมและการให้การรักษาที่เหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการของ แต่ละบุคคล และในอนาคตเรามีแผนที่จะขยายไปยังบริการอื่น ๆ มากขึ้น ทั้งบริการปรึกษาทางไกล หรือ Telemedicine โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนช่วยเหลือการบริการอื่น ๆ ในสาขาใหม่ที่ตอบโจทย์มากขึ้น โดยคลินิกสามารถรองรับทั้งลูกค้าที่เป็นบุคคลทั่วไป ลูกค้าองค์กร รวมถึงลูกค้าประกันทั้งแบบรายกลุ่ม และรายเดี่ยว ซึ่งเรามีเป้าหมายที่จะเชื่อมต่อกับทุกบริษัทประกันภัยเพื่อให้ผู้เข้ารับบริการไม่ต้องสำรองจ่าย” ทั้งนี้ แคร์คัฟเวอร์ สหคลินิก (CareCover Clinic) เปิดให้บริการ วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 08.00 - 20.00 น. (กายภาพบำบัดเวลา 11.00 - 20.00 น.) ปิดให้บริการในวันเสาร์-วันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ โดยสามารถนัดหมายหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร.094-892-6999 หรือ Line ID: @carecoverclinic

Go To Lead


อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ตั้งเป้ากวาดเบี้ย 4.1 หมื่นล้าน
นายโทมัส วิลสัน กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต เปิดเผยว่า ปีที่ผ่านมา อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต สร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมท่ามกลางความท้าทายจากปัจจัยภายนอกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ไม่ฟื้นคืนอย่างที่หลายคนคาดหวัง ความถี่และความรุนแรงในการเคลมสินไหมสุขภาพเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะโรคทางเดินหายใจ และความผันผวนของตลาดเงิน ที่มีผลต่อมูลค่าของสินทรัพย์ เป็นต้น โดยได้สร้างผลงานเบี้ยประกันภัยรับรวม (GWP) เติบโต 6% อยู่ที่ 3.62 หมื่นล้านบาท ส่วนเบี้ยประกันภัยรับปีแรกรายปี (ANP) เติบโต 4% อยู่ที่ 7.3 พันล้านบาท มาจากช่องทางตัวแทน 3.2 พันล้านบาท ช่องทางขายผ่านธนาคาร 2.4 พันล้านบาท ช่องทางขายตรง 1.4 พันล้านบาท และประกันกลุ่มอีกประมาณ 170 ล้านบาท ในด้านการขายผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพยังคงเป็นผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นที่สุด มีการเติบโตต่อเนื่อง ทำให้ อลิอันซ์ อยุธยา ขึ้นแท่นเป็นที่ 3 ในตลาดประกันสุขภาพไทย ปีที่ผ่านมา ยังเป็นปีแห่งความสำเร็จของช่องทางตัวแทนของบริษัท มีการเติบโตในทุกมิติ โครงการสร้างตัวแทนมืออาชีพในระยะยาว โดยตัวเลขตัวแทนใหม่ พุ่งสูงถึงกว่า 9,300 คน เติบโตถึง 34% จำนวนตัวแทนที่มีผลงาน (active agent) ก็เพิ่มสูงถึงกว่า 3,300 คน เติบโตขึ้น 13% จำนวนผู้บริหารตัวแทนระดับสูงได้รับการเลื่อนตำแหน่งถึง 34คน ซึ่งถือว่าสูงมาก
อีกทั้งยังมีความสำเร็จในด้านของการบริหารองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ อลิอันซ์ อยุธยา มีเงินกองทุนสำรองที่มั่นคงถึง 306% ในส่วนความพึงพอใจของลูกค้า ได้รับคะแนน NPS Score ที่ใช้วัดความพึงพอใจลูกค้าอยู่ในระดับ Loyalty Leader และได้คะแนน AES Score ที่ใช้วัดความผูกพันของพนักงานต่อองค์กร สูงเป็นอันดับ 5 จากบริษัทในเครืออลิอันซ์ทั่วโลก และยังได้รับรางวัลด้านผลิตภัณฑ์จากทั้งองค์กรภาครัฐและเอกชนมากมาย สิ่งเหล่านี้ช่วยตอกย้ำว่า อลิอันซ์ อยุธยา เป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญในเรื่องการสร้างความพึงพอใจ และความผูกพันทั้งในส่วนของลูกค้าและพนักงาน ปีนี้ อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนการเติบโตต่อเนื่อง ด้วยการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพสูง พร้อมใช้งานระบบบัญชี IFRS 17 ตามระเบียบข้อบังคับของคปภ. ซึ่งมีผลดีทำให้บริษัทมีมูลค่าและความั่นคงทางการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น ในด้านช่องทางการขาย บริษัทยังเน้นการเติบโตของช่องทางตัวแทน ยังเดินหน้าจัดทำโครงการที่ประสบความสำเร็จในการสร้างตัวแทนคุณภาพ ในขณะที่ยังคงมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์คุ้มครองสุขภาพ ควบคู่ไปกับผลิตภัณฑ์ประกันควบการลงทุน เช่น ยูนิตลิงก์ ที่เรามีเป้าหมายที่จะเพิ่มยอดขายเพื่อให้มีสัดส่วนเป็น 10% ของพอร์ทผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของบริษัท
นอกจากนั้น บริษัทจะให้ความสำคัญกับการบริการ สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า โดยเฉพาะในเรื่องการคุ้มครองสุขภาพ โดยได้มีการจัดตั้งเครือข่าย Preferred Network เพื่อทำงานร่วมกับโรงพยาบาล เพื่อมอบบริการพิเศษ ให้กับลูกค้า นอกจากนั้น จะมีการเปิดให้บริการพิเศษใหม่ๆ อาทิ บริการ Health concierge เพื่อดูแลลูกค้า นัดแนะและประสานงานกับโรงพยาบาลทั้งก่อนและหลังการเข้ารับการรักษา เป็นต้น
"ปีนี้ เรามั่นใจว่าจะสามารถผลักดันให้ อลิอันซ์ อยุธยา สามารถเติบโตธุรกิจในประเทศไทยได้อย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้น เป็นแบรนด์ประกันอันดับหนึ่งในใจลูกค้ารวมทั้งสร้างความผูกพันกับพนักงาน พร้อมพิชิตยอดเบี้ยประกันรับรวม 4.1 หมื่นล้านบาท เบี้ยประกันภัยรับปีแรก 8.3 พันล้านบาท ก้าวสู่การเป็นผู้นำบริษัทประกันชีวิตและสุขภาพของไทยได้อย่างมั่นคง” นายโทมัส กล่าว

Go To Lead


เจนเนอราลี่ ปั้นแบรนด์แคมเปญใหญ่
“Compliment Gossip”
นางสาวช่อฟ้า ยุกตะนันท์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดและบริหารลูกค้า กลุ่มบริษัท เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ กล่าวว่า “สำหรับแผนการส่งเสริมการตลาดในปีนี้ของเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ จะมุ่งเน้นไปที่การทำ Branding Campaign เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคเดิม รวมถึงเพื่อขยายการรับรู้ไปสู่ผู้บริโภคกลุ่มใหม่ที่เป็นเป้าหมายทางการตลาด ทั้งกลุ่มเจนเนอเรชัน Y และ Z รวมถึงกลุ่มเจนเนอเรชัน C ที่ให้ความสำคัญและสนใจกับการใช้เทคโนโลยี สื่อโซเชียลเป็นหลัก ด้วยการถ่ายทอดความเป็นแบรนด์ประกันระดับโลกจากประเทศอิตาลี ที่เปิดให้บริการมายาวนานกว่า 190 ปี และเปิดให้บริการในประเทศไทยมานานกว่า 20 ปี อีกทั้งยังเป็นแบรนด์ที่มีความมั่นคงทางการเงินสูง มีชื่อเสียงระดับโลก ได้รับการยอมรับจากลูกค้ามากมาย
ดังนั้น เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้และกระตุ้นความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ ล่าสุด เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ได้ปั้นแคมเปญใหญ่ผ่านภาพยนตร์โฆษณาออนไลน์ชุด “Compliment Gossip” (เม้าท์ฉ่ำ) โดยได้ Salmon House บริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์โฆษณาชั้นนำของเมืองไทยมาช่วยกันสร้างสรรค์ ด้วยการนำเอารูปแบบการเล่าเรื่องรูปแบบละครซิทคอม (Situation comedy) ซึ่งเป็นสไตล์ที่คนไทยชื่นชอบและคุ้นเคยมาผสานเข้ากับวัฒนธรรมการซุบซิบที่อยู่คู่กับชาวออฟฟิศมาอย่างยาวนาน แต่เรื่องราวการซุบซิบจะถูกปรับเปลี่ยนรูปแบบไปใหม่ไม่เหมือนเดิม ด้วยการหยิบเรื่องราวที่น่าชื่นชมของบุคคลที่ถูกพูดถึงมากล่าวแทน เพื่อให้คนดูรู้สึกเข้าถึงง่าย จับต้องได้ ไม่ไกลตัว รู้สึกมีส่วนร่วม และเพลิดเพลินไปกับการเล่าเรื่องที่จะสอดแทรกเรื่องราวของแบรนด์ไปทีละขั้น ไม่ว่าจะเป็น เจนเนอราลี่มาจากอิตาลี คอยปกป้องความรักของทุกคนทั่วโลกมาอย่างมั่นคง และยาวนานมากกว่า 190 ปี มีแอปพลิเคชัน GEN 365 ที่ทำให้ทุกบริการครบ จบ ง่ายที่ปลายนิ้ว ทั้งยังมีโรงพยาบาลในเครือข่ายมากกว่า 600 แห่ง ที่พร้อมจะดูแลลูกค้าของเจนเนอราลี่ทั่วประเทศ เป็นต้น อีกทั้งยังได้นักแสดงมาดเซอร์ อย่าง “นัท-ณัฏฐ์ กิจจริต” มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวให้มีความสนุกมากยิ่งขึ้น
นางสาวช่อฟ้า กล่าวต่อว่า “หัวใจหลักของแบรนด์เจนเนอราลี่คือ “Protect your love หรือ ประกันความรักคุณ ดังนั้นการเลือกซื้อประกันควรเป็นเรื่องของความรัก ไม่ใช่ความกลัว ไม่ว่าจะเป็นความรักต่อตัวเอง หรือเป็นความรักที่เรามีให้กับคนที่เรารัก ให้ประกันเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้อุ่นใจ สบายใจ มีความสุข จึงทำให้ภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้จึงถูกถ่ายทอดออกมาในรูปแบบที่สนุกสนาน โดยหยิบเอาเรื่องใกล้ตัวในชีวิตประจำวันมาถ่ายทอดให้น่าสนใจ แฝงด้วยอารมณ์ขันในเชิงบวก” นอกจากนี้ทางเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ยังได้เตรียมแผนปล่อยภาพยนตร์โฆษณาชุดดังกล่าวผ่านสื่อในช่องทางต่าง ๆ ทั้ง ช่องทางออนไลน์บนแพลตฟอร์มของเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ไม่ว่าจะเป็น TikTok, Facebook และ Youtube รวมถึงสื่อนอกบ้าน (Out Of Home) อย่าง ดิจิทัลบิลบอร์ด และสื่อบนรถไฟฟ้า เป็นต้น โดยจะเริ่มปล่อยตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป เพื่อให้กลุ่มผู้บริโภคคนเจนใหม่ได้รับรู้และเข้าใจแบรนด์เจนเนอราลี่ “ประกันสีแดง สิงโตมีปีก” มากยิ่งขึ้น”ติดตามเรื่องราวของการเม้าท์ฉ่ำของเหล่าเพื่อนพนักงาน กันแบบเต็ม ๆ กับภาพยนตร์โฆษณาชุด Compliment Gossip ได้ที่ https://youtu.be/P7ePTX6FuzE

Go To Lead


กลุ่มเอฟดับบลิวดี-ไมโครซอฟท์
'ชู'ประกัน AI
ไรอัน คิม (Ryan Kim) ประธานเจ้าหน้าที่สายงานดิจิทัลของกลุ่มเอฟดับบลิวดี กล่าวว่า "นวัตกรรมดิจิทัลเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้บริษัทบรรลุวิสัยทัศน์ในการเปลี่ยนมุมมองของผู้คนที่มีต่อการประกันชีวิต การทำงานร่วมกันครั้งนี้เป็นการรวมความมุ่งมั่นในการเป็นผู้บุกเบิกของ FWD ในตลาดเอเชีย ซึ่งเป็นตลาดประกันภัยที่เติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เข้ากับมาตรฐานและทักษะระดับโลกของ Microsoft ในด้านวิศวกรรมและ AI”
"เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้สร้างประโยชน์จากการนำนวัตกรรมรุ่นใหม่ๆ มาพัฒนาสู่การใช้งานจริงในอุตสาหกรรม และสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรม ซึ่งเราเชื่อว่าจะเป็นการวางทิศทางด้านการประกันภัยต่อไปในอนาคต"
กลุ่มเอฟดับบลิวดีทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า รวมไปถึงงานในส่วนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มผู้ใช้งานในส่วนของดิจิทัล การตลาด ประสิทธิภาพของช่องทางจัดจำหน่ายและตัวแทน การรับประกันภัย การเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน และการบริการลูกค้า นอกจากนี้ บริษัทฯ ถือเป็นผู้ใช้งานกลุ่มแรกๆในโปรแกรม Copilot ของ Microsoft 365 ซึ่งเป็นการนำ AI มาทำหน้าที่ผู้ช่วยสนับสนุนการทำงานในแต่ละวันของพนักงาน
บิล บอร์เดน (Bill Borden) รองประธานบริษัทฝ่ายบริการทางการเงินของไมโครซอฟท์ กล่าวว่า "AI กำลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมบริการทางการเงิน โดยเป็นนวัตกรรมที่ช่วยเปิดโอกาสให้ธุรกิจเติบโตด้วยความคล่องตัวและขยายตัวมากขึ้น เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สร้างความร่วมมือที่แข็งแกร่งด้าน AI กับกลุ่มเอฟดับบลิวดี ผ่านความสามารถของข Azure OpenAI Service และ Copilot for Microsoft 365 เพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า พร้อมสนับสนุนกระบวนการทำงานให้มีความปลอดภัยและรัดกุมยิ่งขึ้น”
“ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีบทบาทสำคัญในวงการการเงินระดับโลก และยังมีความโดดเด่นในการขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลงและการปรับตัว ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่จะทำให้เกิดการเติบโตและสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เรามุ่งมั่นที่จะเพิ่มศักยภาพให้กับลูกค้าทั่วภูมิภาคโดยนำ Generative AI มาใช้อย่างมีความรับผิดชอบ และด้วยความเป็นผู้นำด้าน AI ในระดับโลกของไมโครซอฟท์ เราเป็นหนึ่งในผู้ที่มีส่วนร่วมสนับสนุน ecosystem ด้านนวัตกรรมให้กับอุตสาหกรรมทางการเงิน เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงานและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้า”กลุ่มเอฟดับบลิวดีได้ริเริ่มนำนวัตกรรม AI มาใช้ตั้งแต่ปี 2562 ปัจจุบันกลุ่มเอฟดับบลิวดีมีการใช้งานโมเดล AI อยู่เกือบ 200 โมเดล และมีตัวอย่างการใช้งานจริงมากกว่า 600 เคส

Go To Lead


[ENGLISH] 
  --  
iClickNews.com