Education/Health
Hot News: Thailand Wellness & Healthcare Expo 2025 จับคู่ธุรกิจ 191 คู่ สร้างมูลค่ากว่า 377 ลบ.
http://www.tviclick.com
Home Page iClick News.com
Home
Print this webpage
Print
English Version
English
Thailand Wellness & Healthcare Expo 2025
จับคู่ธุรกิจ 191 คู่ สร้างมูลค่ากว่า 377 ลบ.
นางสาวณรินณ์ทิพ วิริยะบัณฑิตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีเอ็มจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้จัดงาน Thailand Wellness & Healthcare Expo 2025 กล่าวว่า งาน Thailand Wellness & Healthcare Expo 2025 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-29 มิถุนายน 2568 ณ ไบเทคบางนา มีผู้สนใจเข้าร่วมงานกว่า 25,000 ราย ประกอบด้วย แพทย์ นักวิจัย นักธุรกิจ นักลงทุน และผู้สนใจเรื่องสุขภาพ ยอดจำหน่ายสินค้าภายในงานรวมทั้งสิ้น 5.6 ล้านบาท ส่วนยอดขอสินเชื่อในงานรวม 109 ล้านบาท สำหรับธุรกิจดาวเด่นยอดนิยมภายในงาน ได้แก่ ชีวาโน่จำหน่ายเครื่องมือแพทย์, โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต, Bangkok Anti Aging Center, เครื่องตรวจ DNAจากจีนีโอเมด, อาหารและเครื่องดื่มสุขภาพจาก Settharachanon, เครื่องหอม จาก Ivory Aeomatic, โปรซอร์ซจำหน่ายเก้าอี้นวด, Fixi Foot, น้ำหวานดอกมะพร้าว&น้ำตาลเพื่อสุขภาพจากชีวาดี, เก้าอี้นวดจากโปรซอร์ซ, เครื่องปั่นสกัดเย็นจากไบร์โอเชฟ, สมุนไพรบ้านพระอาทิตย์, เครื่องมือแพทย์&อาหารเสริมจากไทยเซลล์ฟิกซ์, เตียงและตู้อบซาวน่าเกลือหิมาลายันสีชมพูจากไนน์ เพชรบูรณ์ และ สปาจากทริปเปิล พี เวลเนส
โดยหัวข้อเสวนาที่ได้รับเสียงตอบรับดีมีผู้เข้าร่วมฟังสูงสุด ได้แก่ วัยทองอย่างไรไม่ให้แก่โดย ผศ.นพ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์, สมดุลกรด-ด่างในร่างกายกับการดูแลสุขภาพ โดยแพทย์หญิงพักตร์พิไล ทวีสิน, CELL THERAPY AND LONGEVITY IN THAILAND โดย ผศ. ดร. นพ. พัฒนา เต็งอำนวย, วิถีบลูโซน: ฮอร์โมนกับความยืนยาวของชีวิต โดย นพ. ภัทร วิริยะบัณฑิตกุล และ นพ. จุทศ จักกายชวดล และ มุมมองการขยายตลาดสุขภาพในผู้สูงอายุในปี 2568 โดย นพ.เก่งพงศ์ ตั้งอรุณสันติ
ด้านกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจในงานก็มีกลุ่มผู้ประกอบการให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ทำให้ได้คู่ค้าและขยายตลาดเพิ่ม โดยตลอดทั้ง 4 วันมีการเจรจาจับคู่ธุรกิจทั้งสิ้น 191 คู่ รวมมูลค่ากว่า 377 ล้านบาท โดยธุรกิจที่ได้รับความสนใจจาก Buyer สูงสุด คือ อาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เครื่องสำอางและความงาม อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์ของใช้ผู้สูงวัย น้ำหอมและบาล์ม อีคอมเมิร์ซแพลทฟอร์ม และ Medical Center Service
“ผลตอบรับจากการจัดงาน Thailand Wellness & Healthcare Expo 2025 ในครั้งนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจในเรื่องสุขภาพเป็นอย่างมาก สอดรับกับแนวโน้มโลกปัจจุบันที่ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยเต็มรูปแบบ ทางผู้จัดงานรู้สึกภาคภูมิใจที่การจัดงานในครั้งนี้ตอบโจทย์คนรักสุขภาพและวิถีแห่งโลกยุคใหม่ โดยมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งที่ผลักดันให้ประเทศไทยก้าวเป็นผู้นำด้านเวลเนสและสุขภาพในภูมิภาคอาเซียนต่อไป” นางสาวณรินณ์ทิพ กล่าว

Go To Lead


ม.พะเยา ลงนาม MOU
กรมการแพทย์แผนไทยฯ
รองศาสตราจารย์ ดร.สุภกร พงศบางโพธิ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยพะเยา ลงนามบันทึกข้อตกลงความเข้าใจทางวิชาการ (MOU) กับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก การลงนามบันทึกข้อตกลงฉบับนี้ มีเป้าหมายเพื่อ พัฒนาศักยภาพของนิสิตและบุคลากรทางสาธารณสุข ให้มีความรู้ ทักษะทางวิชาการ เทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ตลอดจนสนับสนุนให้เกิด เครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการ ระหว่างสถาบันการศึกษากับภาครัฐ เพื่อส่งเสริมองค์ความรู้และการบริการที่สอดคล้องกับบริบทสุขภาพของสังคมไทยในปัจจุบัน พร้อมขับเคลื่อนการแพทย์แผนไทยสู่สากลผ่านพลังของการศึกษาวิจัยและการพัฒนากำลังคน คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา มีบทบาทสำคัญในการผลิตบัณฑิตที่มีความรู้รอบด้านและตอบสนองต่อความต้องการของสังคม รวมถึงพัฒนาศักยภาพกำลังคนด้านสุขภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกที่สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ และการส่งเสริมสุขภาพแบบองค์รวมตามแนวทางสุขภาพวิถีไทย

Go To Lead


'ม.วลัยลักษณ์' ผนึก 'NKUHT ไต้หวัน'
แลกเปลี่ยนนศ.-วิชาการ
รองศาสตราจารย์ ดร.จรัญ บุญกาญจน์ กล่าวว่า สำนักวิชาการจัดการ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ (มวล.) และ มหาวิทยาลัยการบริการและการท่องเที่ยวแห่งชาติเกาสง (National Kaohsiung University of Hospitality and Tourism : NKUHT) ประเทศไต้หวัน ร่วมกันลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการบริการและการท่องเที่ยว เพื่อแลกเปลี่ยนนักศึกษา พัฒนางานวิจัยและส่งเสริมการสหกิจศึกษาระดับนานาชาติร่วมกัน โดยการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการสร้างความร่วมมือและสานต่อด้านการแลกเปลี่ยนนักศึกษา บุคลากรและความร่วมมือทางวิชาการที่ทั้งสองสถาบันมีร่วมกันให้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในสาขาการบริการ การท่องเที่ยว และสาขาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสำนักวิชาการจัดการ ได้นำร่องส่งนักศึกษาและคณาจารย์จำนวน 50 คน จากสาขาศิลปะการประกอบอาหารอย่างมืออาชีพ ไปเข้าร่วมโครงการศึกษาดูงานระยะสั้นที่ NKUHT เป็นเวลา 2 สัปดาห์ในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และในเดือนตุลาคม 2568 ที่จะถึงนี้ จะส่งนักศึกษาจำนวน 35 คนจากสาขาการตลาดดิจิทัลและการสร้างแบรนด์ มีกำหนดเดินทางไปเข้าร่วมโครงการศึกษาดูงานเป็นระยะเวลา 1 เดือน ขณะที่นักศึกษาจากสาขาการจัดการการท่องเที่ยวและการโรงแรม และสาขาการจัดการโลจิสติกส์ กำลังเตรียมความพร้อมสำหรับการสหกิจศึกษากับ NKUHT อีกด้วย
ด้าน ดร. ตุน จี เฉิน กล่าวว่า รู้สึกดีใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ทั้งสองสถาบันได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมืออย่างเป็นทางการในครั้งนี้ หลังจากที่ทั้งสองมหาวิทยาลัยได้เริ่มดำเนินความร่วมมือกันมาแล้ว ทั้งในด้านการแลกเปลี่ยนนักศึกษาและคณาจารย์และการจัดโครงการศึกษาดูงานและพัฒนาทางวิชาการระยะสั้น โดยหวังว่าบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้จะนำไปสู่ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดและมากขึ้นในอนาคต รวมทั้งขยายไปสู่การทำวิจัยร่วมกันต่อไป ทั้งนี้ บันทึกข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าวมีข้อตกลงร่วมกัน ในการแลกเปลี่ยนนักศึกษา บุคลากรและอาจารย์ สร้างความร่วมมือด้านการพัฒนาสหกิจศึกษานานาชาติและความร่วมมือในการจัดโครงการวิชาการพิเศษระยะสั้น การวิจัยและกิจกรรมอื่น ๆ ร่วมกัน โดยบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับนี้มีอายุ 5 ปีนับแต่วันลงนาม

Go To Lead


“ไบรท์ตัน คอลเลจ”
เปิดตัวแคมปัสใหม่ในไทย
นายคริสเปียน วอเตอร์แมน อาจารย์ใหญ่คนใหม่ ไบรท์ตัน คอลเลจ กรุงเทพฯ วิภาวดี ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษานานาชาติที่เข้ารับตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ กล่าวว่า โรงเรียนนานาชาติ ไบรท์ตัน คอลเลจ วิภาวดี กำลังจะเปิดการเรียนการสอนในเดือนสิงหาคม 2568 จัดการเรียนการสอนพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ยอดเยี่ยม สังคมที่มีชีวิตชีวา เรากำลังสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่เต็มไปด้วยโอกาส นี่จะเป็นโรงเรียนที่มีรากฐานในการสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กๆ ได้เป็นตัวเองในรูปแบบที่ดีที่สุด – เด็กๆ ที่มีความเมตตากรุณา เคารพผู้อื่น มีความใฝ่รู้ทางวิชาการ และมั่นใจในตนเอง พร้อมที่จะมีส่วนร่วมในการสร้างโลกที่ดีกว่าสำหรับคนรุ่นต่อไป โดยไบรท์ตัน คอลเลจ กรุงเทพฯ วิภาวดี เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวโรงเรียนไบรท์ตัน คอลเลจ ทั่วโลก ซึ่งมีโรงเรียนในเครือ ในสหราชอาณาจักร สิงคโปร์ เวียดนาม สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (อาบูดาบี อัลไอน์ และดูไบ) และ ถ.กรุงเทพกรีฑา กรุงเทพมหานคร เครือข่ายนานาชาตินี้เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ร่วมมือ แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และเสริมสร้างความเป็นเลิศทางวิชาการในระดับโลก
ไบรท์ตัน คอลเลจ สหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นต้นแบบ ได้รับรางวัล ‘โรงเรียนแห่งทศวรรษ’ จากหนังสือพิมพ์ The Sunday Times และได้รับการยอมรับอย่างต่อเนื่องในฐานะโรงเรียนเอกชนชั้นนำของสหราชอาณาจักร ในปี พ.ศ. 2567 นักเรียนของไบรท์ตัน คอลเลจ ได้คะแนนสอบที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับโรงเรียนทั้งหมดในสหราชอาณาจักร นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติให้เป็น ‘โรงเรียนอันดับหนึ่งในอังกฤษสำหรับ STEM’ และ ‘หลักสูตรระดับมัธยมปลายที่ดีที่สุดในอังกฤษ’ ไบรท์ตัน คอลเลจ กรุงเทพฯ วิภาวดี ภูมิใจนำเสนอสิ่งอำนวยความสะดวกชั้นเลิศที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ในทุกมิติ ประกอบด้วยห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัย พื้นที่สร้างสรรค์และเทคโนโลยี รวมถึงเวิร์กช็อปเทคโนโลยีการออกแบบและห้องปฏิบัติการหุ่นยนต์ โรงละครขนาด 370 ที่นั่งที่ตกแต่งอย่างสวยงาม ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกทางการศึกษา โรงเรียนมีห้องเรียนร่วมสมัยกว่า 70 ห้อง ซึ่งแต่ละห้องพร้อมด้วยเครื่องมือการสอนดิจิทัล แบ่งเป็นกลุ่มระดับ ประถม มัธยม และกลุ่มเด็กปฐมวัย ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับเด็กเล็ก

Go To Lead


'มหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จ'
เน้นย้ำบทบาทอาชีพกุมารแพทย์
Dr. Ahmed Hussein ศิษย์เก่าจากหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตของมหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จ รุ่นปี 2022 กล่าวว่า คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเซนต์จอร์จ (St. George’s University – SGU) ประเทศเกรเนดา หมู่เกาะเวสต์อินดิส ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญและคุณค่าของวิชาชีพกุมารเวชศาสตร์ ซึ่งมีบทบาทในการดูแลสุขภาวะทั้งทางร่างกายและอารมณ์ของเด็ก พร้อมทั้งให้การสนับสนุนครอบครัวในช่วงเวลาที่เปราะบาง โดยกุมารแพทย์ถือเป็นกำลังสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพที่ดีให้กับเยาวชนไทย ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญของสังคมในอนาคต ผลสำรวจที่มุ่งเน้นถึงสุขภาพในกลุ่มเด็กและเยาวชนไทยชี้ให้เห็นแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วน โดยผลสำรวจนี้พบว่า 42.4% ของประชากรไทยที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไปมีภาวะอ้วน ขณะที่สหพันธ์โรคอ้วนโลกคาดการณ์ว่า ภายในปี 2573 เด็กไทยอายุต่ำกว่า 20 ปีเกือบ 50% จะมีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน ในด้านกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่า เด็กไทยอายุระหว่าง 5 ถึง 8 ปี มีอัตราปัญหาพัฒนาการล่าช้า ความบกพร่องในการเรียนรู้ ภาวะสมาธิสั้น หรือสติปัญญาต่ำอยู่ที่ 1 ใน 14 คน ซึ่งปัญหาเหล่านี้มีแนวโน้มเชื่อมโยงกับการเจ็บป่วยทางจิต การใช้สารเสพติด และภาวะซึมเศร้าเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่
"การตรวจสุขภาพเด็กเป็นประจำคือมาตรการป้องกันที่สำคัญที่สุด “ในแต่ละช่วงวัยจะมีแนวทางการดูแลเฉพาะและเครื่องมือคัดกรองโรคที่เหมาะสม” โดยกล่าวต่อว่า “การตรวจสุขภาพตามนัดจะช่วยให้กุมารแพทย์สามารถให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับแต่ละคนในด้านโภชนาการ พัฒนาการ และสุขภาพจิตใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ กุมารเวชศาสตร์เป็นสาขาที่ให้ความรู้สึกเติมเต็มอย่างลึกซึ้ง เพราะไม่ใช่แค่การรักษาเด็ก แต่ยังหมายถึงการอยู่เคียงข้างทั้งครอบครัวในช่วงเวลาที่อ่อนไหวที่สุด กุมารแพทย์จะกลายเป็นที่ปรึกษาที่ไว้ใจได้ ช่วยให้พ่อแม่ก้าวข้ามความไม่แน่นอน และส่งเสริมให้พวกเขาดูแลสุขภาพลูกได้อย่างมั่นใจแม้อยู่นอกคลินิก” Dr. Ahmed กล่าว

Go To Lead


[ENGLISH] 
  --  
iClickNews.com