Auto
Hot News: “Honda Automotive Technology Workshop”
http://www.tviclick.com
Home Page iClick News.com
Home
Print this webpage
Print
English Version
English
“Honda Automotive Technology Workshop”
บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด จัดกิจกรรม Honda Automotive Technology Workshop เพื่อเผยข้อมูลของเทคโนโลยีเจเนอเรชันใหม่สำหรับรถยนต์ ที่มีแผนจำหน่ายในช่วงครึ่งหลังของทศวรรษ 2020 เทคโนโลยีหลักที่นำเสนอในกิจกรรม ได้แก่ 1) แพลตฟอร์มสำหรับรถยนต์ไฮบริดเจเนอเรชันใหม่ 2) เทคโนโลยีระบบไฮบริด-ไฟฟ้า (Hybrid-Electric System) สำหรับรถยนต์ไฮบริดขนาดใหญ่รุ่นใหม่ ที่มีแผนเปิดตัวในอเมริกาเหนือช่วงครึ่งหลังของทศวรรษ 2020 และ 3) เทคโนโลยีหลักที่จะนำมาใช้กับรถยนต์ไฟฟ้า Compact รุ่นผลิตจริง โดยอ้างอิงจาก Super-ONE Prototype ที่เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่งาน Japan Mobility Show 2025 ฮอนด้ายึดมั่นในเป้าหมายด้าน “สิ่งแวดล้อม” และ “ความปลอดภัย” ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องดำเนินการ เพื่อให้ฮอนด้าสามารถส่งมอบความสนุกและอิสระแห่งการขับเคลื่อนแก่ผู้คนได้อย่างยั่งยืน บนพื้นฐานแนวคิดดังกล่าว ฮอนด้าได้ตั้งเป้าหมายระยะยาวไว้ 2 ประการ ได้แก่ “การบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน สำหรับทั้งผลิตภัณฑ์และกิจกรรมองค์กรทั้งหมด” และ “ลดการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องจากการใช้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทั่วโลกให้เป็นศูนย์ (Zero Traffic Collision Fatalities) ภายในปี ค.ศ. 2050
ฮอนด้าได้ประกาศเดินหน้าพัฒนาเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และรถยนต์ไฮบริด (HEV) และพร้อมมอบคุณค่าใหม่ให้แก่ลูกค้า ขับเคลื่อนไปสู่ยุคแห่งการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ควบคู่กับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะที่ก้าวล้ำยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน ฮอนด้ายังคงเดินหน้าส่งมอบคุณค่า “ความสนุกในการขับขี่” อันเป็นเอกลักษณ์ในยุคแห่งยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อให้ผู้ขับรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับรถ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า (EV) หรือ รถยนต์ไฮบริด นอกจากนี้ ฮอนด้ายังคงยึดหลักการออกแบบ M/M Concept*1 (Man Maximum, Machine Minimum) โดยให้ความสำคัญกับผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลาง เพื่อส่งมอบความสนุกในการขับขี่ พร้อมด้วยความสะดวกสบายและความสนุกให้แก่ผู้โดยสาร
ภายใต้แนวคิด “Enjoy the Drive” ซึ่งสะท้อนคุณค่าหลักของรถยนต์ฮอนด้า ด้วยแนวคิด M/M Concept และ “ความสนุกในการขับขี่” ฮอนด้ายังคงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์เจเนอเรชันใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยในกิจกรรมครั้งนี้ ฮอนด้าได้เผยโฉมเทคโนโลยีใหม่ที่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา เพื่อสะท้อนแนวคิดและคุณค่าที่เป็นเอกลักษณ์ของฮอนด้า ภาพรวมของแพลตฟอร์มขนาดกลางเจเนอเรชันใหม่ ฮอนด้าเดินหน้าพัฒนาสมรรถนะของระบบไฮบริด และแพลตฟอร์มไฮบริด ให้ก้าวล้ำยิ่งขึ้น โดยมีแผนเริ่มนำมาใช้ในกลุ่มรถยนต์ไฮบริดรุ่นใหม่ ที่จะเปิดตัวสู่ตลาดตั้งแต่ปี ค.ศ. 2027 เป็นต้นไป แพลตฟอร์มเจเนอเรชันใหม่นี้ ได้รับการพัฒนาโดยผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยหลากหลายด้าน เพื่อให้ได้ทั้งโครงสร้างตัวถังที่มีความแข็งแกร่งและน้ำหนักเบาในระดับสูง รวมถึงแนวคิดการออกแบบที่แบ่งระบบหรือผลิตภัณฑ์ออกเป็นโมดูล ที่ช่วยเพิ่มการใช้ชิ้นส่วนร่วมกันได้ในหลายรุ่นให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทำให้ฮอนด้าสามารถยกระดับ “ความสนุกในการขับขี่” อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจสไตล์สปอร์ตและสนุกสนานยิ่งกว่าเดิม
แพลตฟอร์มขนาดกลางเจเนอเรชันใหม่ เพื่อกำหนดมาตรฐานใหม่ด้านเสถียรภาพในการขับขี่ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อสมรรถนะของตัวรถ ฮอนด้าได้พัฒนาแนวทางใหม่ในการจัดการความแข็งแรงของตัวถัง เพื่อเพิ่มความมั่นคงในการขับขี่ โดยการปรับสมดุลความแข็งแกร่งของตัวถังให้เหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้น้ำหนักโดยรวมของตัวรถลดลง พร้อมทั้งสร้างลักษณะการทรงตัวของรถให้มีความยืดหยุ่นขณะเข้าโค้ง ซึ่งจะสามารถควบคุมแรงกดบนยางแต่ละเส้นและเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนน ผลลัพธ์ คือ รถยนต์ EV รุ่นใหม่จะมอบเสถียรภาพในการขับขี่ที่เหนือความคาดหมาย พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สปอร์ตและสนุกเร้าใจยิ่งขึ้น ฮอนด้ามีแผนนำเทคโนโลยีดังกล่าวไปประยุกต์ใช้กับแพลตฟอร์มรถไฟฟ้าในอนาคต น้ำหนักแพลตฟอร์มของรถไฮบริด จะลดลงถึง 90 กิโลกรัม (198 ปอนด์) เมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มรุ่นปัจจุบัน โดยมีการปรับปรุงโครงสร้างตัวถังและนำวิธีการออกแบบทางวิศวกรรมรูปแบบใหม่มาใช้ ด้วยแพลตฟอร์มรุ่นใหม่นี้ ฮอนด้ามุ่งมั่นที่จะพัฒนารถยนต์ไฮบริดรุ่นใหม่ที่มอบทั้งความสนุกในการขับขี่และประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันที่ยอดเยี่ยมไปพร้อมกัน
แนวคิดการออกแบบที่แบ่งระบบหรือผลิตภัณฑ์ออกเป็นโมดูล จะถูกนำมาใช้เพื่อให้ชิ้นส่วนสามารถใช้ร่วมกันได้หลายรุ่น โดยแยกชิ้นส่วนเป็นโมดูลที่ใช้ร่วมกันได้ เช่น ห้องเครื่องยนต์และโครงสร้างใต้ท้องรถส่วนหลัง และโมดูลเฉพาะส่วน เช่น ห้องโดยสารด้านหลัง จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนารถรุ่นใหม่ ฮอนด้าตั้งเป้าให้ชิ้นส่วนต่าง ๆ สามารถใช้ร่วมกันได้มากกว่า 60% ในทุกรุ่นที่ใช้แพลตฟอร์มนี้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตรถยนต์และความหลากหลายของรุ่นรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถควบคุมต้นทุนการผลิตได้ ช่วยยกระดับประสิทธิภาพทั้งในด้านการพัฒนาและการผลิตให้เพิ่มขึ้น จากการพัฒนาแพลตฟอร์ม ฮอนด้าได้นำเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยให้ผู้ขับควบคุมรถได้ตามต้องการมาใช้ เช่น ระบบ Motion Management ที่ต่อยอดองค์ความรู้และต้นแบบด้านการควบคุมท่าทาง การพัฒนาหุ่นยนต์เทคโนโลยีต้นแบบ นอกจากนี้ ยังเพิ่มเทคโนโลยี Pitch Control*2 เข้าไปในระบบ Agile Handling Assist ซึ่งเป็นระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ที่ช่วยให้รถมีพฤติกรรมการเข้าโค้งที่ราบรื่น ซึ่งได้ถูกติดตั้งแล้วใน Accord และ Prelude เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่ควบคุมรถได้อย่างแม่นยำในทุกสถานการณ์ โดยไม่ถูกจำกัดด้วยสภาพถนน ด้วยเทคโนโลยีเหล่านี้ ฮอนด้ามุ่งมั่นที่จะยกระดับ “ความสนุกในการขับขี่” ให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
จากความต้องการของตลาด ส่งผลให้รถยนต์ไฮบริดยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ฮอนด้าจึงได้วางทิศทางของรถยนต์ไฮบริด โดยเฉพาะรถยนต์ไฮบริด (HEV) เจเนอเรชันใหม่ที่จะเปิดตัวตั้งแต่ปี 2027 เป็นต้นไป ให้เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์หลักที่จะมีบทบาทสำคัญในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่ยุคที่รถยนต์ไฮบริดได้รับความนิยมอย่างสูงสุด โดยเฉพาะในตลาดอเมริกาเหนือ ซึ่งเป็นตลาดหลักของรถยนต์ไฮบริด ซึ่งมีความต้องการรถยนต์ไฮบริดขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองต่อความต้องการดังกล่าว ฮอนด้ากำลังทำการพัฒนาระบบไฮบริดรุ่นใหม่ ที่มาพร้อมสมรรถนะการขับขี่ทรงพลังและความสามารถในการลากจูงสูง (High Towing Capability) ควบคู่ไปกับความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ยอดเยี่ยม เพื่อให้เหมาะสมกับรถยนต์ขนาดใหญ่ในกลุ่ม D-segment ขึ้นไป โดยมีแผนเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของทศวรรษ 2020 ฮอนด้าได้เผยเทคโนโลยีหลักของระบบไฮบริดขนาดใหญ่เจเนอเรชันใหม่ ซึ่งประกอบด้วย เครื่องยนต์ V6 ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ซึ่งสอดคล้องกับกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวด รวมถึง ชุดขับเคลื่อน และชุดแบตเตอรี่ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายทั้งด้านประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมและต้นทุนต่ำ
ฮอนด้ามุ่งมั่นที่จะพัฒนาอัตราการประหยัดน้ำมันของรถยนต์ไฮบริดขนาดใหญ่เจเนอเรชันใหม่ให้ดีขึ้นมากกว่า 30% เมื่อเทียบกับรถยนต์สันดาปที่จำหน่ายอยู่ในเซกเมนต์เดียวกัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ ฮอนด้าจะผสานเครื่องยนต์ V6 รุ่นใหม่ ที่พัฒนาในเรื่องความประหยัดน้ำมันให้ดียิ่งขึ้น เข้ากับชุดขับเคลื่อนประสิทธิภาพสูงเจเนอเรชันใหม่ พร้อมทั้งนำระบบควบคุมพลังงานอัจฉริยะรุ่นใหม่มาใช้ เพื่อปรับโหมดการขับขี่ให้เหมาะสมกับทุกสภาพการขับขี่ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันได้ดียิ่งขึ้น เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ทรงพลังให้เหมาะสมกับรถยนต์ไฮบริดขนาดใหญ่ ฮอนด้ามุ่งมั่นที่จะ ปรับปรุงสมรรถนะด้านอัตราเร่งและการเร่งความเร็วเมื่อเหยียบคันเร่งแบบเต็มกำลังให้ดีขึ้นมากกว่า 10% เมื่อเทียบกับรถยนต์สันดาปที่จำหน่ายอยู่ในเซกเมนต์เดียวกัน โดยการเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องยนต์และชุดขับเคลื่อนแต่ละส่วน รวมถึงการใช้พลังงานเสริมจากแบตเตอรี่ ภาพรวมของเทคโนโลยีไดนามิก สำหรับรถยนต์ Compact EV ต้นแบบ Super-ONEรถยนต์รุ่นผลิตจริงที่พัฒนาขึ้นจากรถต้นแบบ Super-ONE เผยโฉมเป็นครั้งแรกในโลก ณ งาน Japan Mobility Show 2025 มีกำหนดเริ่มวางจำหน่ายที่ประเทศญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 2026 เป็นประเทศแรก ตามมาด้วยสหราชอาณาจักรและประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย ที่มีความต้องการรถ Compact EV สูง ได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิด “e: Dash BOOSTER” โดยสร้างสรรค์ให้เป็นรถไฟฟ้าขนาดกะทัดรัด ที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับการเดินทางในชีวิตประจำวัน ให้กลายเป็นประสบการณ์ที่สนุกสนาน น่าตื่นเต้น มาพร้อมหลากหลายฟังก์ชันการใช้งานที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับความสุขภายในห้องโดยสารและการขับขี่

Go To Lead


AUTO CLICK
Toyota Yaris, Atif HEV
ค่าย Toyota ลอนช์รถรุ่นใหม่
Atif HEV รถระดับพรีเมียม
เครื่องยนต์ไฮบริด ZNR-VEX
รถยนต์รุ่นนี้ ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ
ผนึกกับพลังของมอเตอร์ ไฟฟ้า
แบบชิงโครนัส แม่เหล็กถาวรและ
แบตลิเธียมไอออน Li-ion
กำลังแรงสูงสุด 111 แรงม้า ใช้เชื้อเพลิง
สูงสุด 29.4 กม./ลิตร ในรถฟังก์ชั่น
อำนวยความสะดวกครบครัน เชื่อมต่อ
Apple Car Play, Android
รถ ไร้สายรุ่นนี้ ราคา 719,000 บาท
Go To Top

[ENGLISH] 
  --  
iClickNews.com