ดูนิ ไทยแลนด์ ทุ่มพันล้านปักหมุดไทยฐานผลิตเอเชีย
นายประวิทย์ เตชะวิจิตร์ กรรมการผู้จัดการ (CEO) บริษัท ดูนิ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตกระดาษเช็ดปากชั้นนำจากประเทศสวีเดน เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมด้านอาหาร หรือ ตลาด HoReCa (Hotels Restaurants & Catering)ในประเทศไทยมีขนาดใหญ่มาก อ้างอิงจาก สำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่าจำนวนโรงแรม 24,400 แห่งทั่วประเทศ ในจำนวนนี้เป็นโรงแรมสี่ดาวขึ้นไป ประมาณ 3,660 แห่ง หรือคิดเป็น 15% นอกจากนี้ ความน่าสนใจในกลุ่มธุรกิจภัตตาคารและร้านอาหาร (Restaurant) ที่ทาง TTB Analytics รายงานไว้เป็นจำนวน ถึง 32,300 แห่ง โดยเป็นร้านเจาะตลาดระดับกลางและระดับบน ขณะที่ธุรกิจจัดเลี้ยง (Catering) มีข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย และการประเมินของบริษัท คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าตลาดที่ 850 ล้านบาทเช่นกัน ทำให้มุมมองในการขยายตลาดและลงทุนในไทยมีน้ำหนักมากยิ่งขึ้น เมื่อพิจารณาจากศักยภาพของตลาด HoReCa ในไทยที่มีการบริโภคภายในประเทศสูงเหมาะกับการใช้เป็นฐานของธุรกิจ อีกทั้งยังเป็นจุดศูนย์กลางของภูมิภาคสะดวกในการส่งออก ซึ่งประเทศไทยมีสนธิสัญญา FTA Free Trade Agreement กับหลายประเทศทำให้มีข้อได้เปรียบในเรื่องภาษีของผู้ซื้อที่ต้องการนำเข้า อีกทั้งแรงงานในไทยมีคุณภาพสูงและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ยังไม่สูงนัก โดยเหตุผลของการตัดสินใจลงทุนพัฒนาพื้นที่โรงงานเพิ่มในปีนี้ มาจากการเล็งเห็นถึงโอกาสทางธุรกิจที่ขยายตัวอย่างมาก โดยเฉพาะในตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) ของกลุ่มชนชั้นกลางในแต่ละประเทศที่มีวิถีชีวิตและวัฒนธรรมในการรับประทานอาหารที่มีความพิถีพิถันมากขึ้น และจากความต้องการสินค้า พรีเมี่ยมที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ตลาด HoReCa โดยรวมโต 8-10% ในช่วงที่ผ่านมา ส่วนของแผนการลงทุนในประเทศไทย ดูนิ ไทยแลนด์ (Duni Thailand) ได้มีการลงทุนขั้นต้นในปี 2559 มูลค่า 720 ล้านบาท และเตรียมขยายพื้นที่ และกำลังผลิตอีก 300 ล้านบาท โดยแบ่งออกเป็น 2 เฟส ในส่วนเฟสแรก ดำเนินการในปี 2566 มูลค่าการลงทุน 190 ล้านบาท และ เฟสที่สอง ในปี 2567 อีก 110 ล้านบาท รวมเป็นมูลค่าการลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท
จากการขยายกำลังการผลิตดังกล่าว ทำให้บริษัทฯ สามารถผลิตสินค้าที่มีความหลากหลาย สอดรับกับความต้องการของตลาดในอนาคต รวมถึงเพิ่มกำลังการผลิตจากปัจจุบัน 4,000 ตันต่อปี และเพิ่มเป็น 6,000-8,000 ตันในปี 2567-2568 ตามลำดับ ซึ่งการเลือกประเทศไทยเป็นฐานการผลิตและจำหน่ายให้ทั้งในไทยและประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียในครั้งนี้เป็นไปตามบิสิเนส โมเดล ( Business Model) ที่ทำสำเร็จมาแล้วในยุโรป นายประวิทย์ กล่าว
นอกจากแผนการลงทุนและขยายกำลังการผลิตแล้ว อีกหนึ่งแผนงานที่ ดูนิ ไทยแลนด์ ให้ความสำคัญกับการตลาด การพัฒนาช่องทางจัดจำหน่าย และสร้างแบรนด์ ซึ่ง ดูนิ มีสินค้าสำหรับหลากหลายกลุ่มตลาด แบ่งได้เป็น 3 คอนเซ็ปต์หลัก (Go-Joy-Wow) และนับเป็นแบรนด์ โพสิชัน (Brand Position) ที่ชัดเจนเพื่อการสื่อสารกับกลุ่มตลาดเป้าหมายทั้งในตลาดไทย และตลาดในภูมิภาคเอเชีย ดังนี้ Go การใช้งานแบบสะดวกราคาไม่สูง เช่น napkins ที่ใช้ในร้านอาหารแบบทานสบาย ๆ สไตล์คาเฟ่ Joy เน้นความสวยงาม สนุกสนานสร้างอารมณ์และบรรยายกาศที่ดีของงานเลี้ยงในกลุ่มครอบครัวและเพื่อนฝูง Wow เน้นความหรูหรา ให้ความรู้สึก Luxury เหมาะกับ Fine Dining และร้านที่ให้ความสำคัญกับบรรยากาศร้าน และดีไซน์ โดยผลิตภัณฑ์ผ้าเช็ดปาก ดูนิ มีจุดเด่นที่การให้ความสำคัญกับสุขอนามัยของผู้ใช้งาน เพราะใช้เพียงครั้งเดียว ทั้งยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการทำความสะอาด ประหยัดค่าใช้จ่ายในการส่งซัก ประหยัดเวลาและค่าแรงในการพับผ้าเช็คปาก ทั้งยังมีความยั่งยืนมากกว่าเมื่อเทียบกับใช้สารฟอกขาวสำหรับผ้าลินิน หรือผ้าเช็ดปากทั่วไป รวมถึงการใช้งานที่ยืดหยุ่นสามารถปรับเปลี่ยนผ้าเช็ดปากให้เหมาะกับอีเวนต์ต่าง ๆ ได้อย่างลงตัว ผลิตภัณฑ์ใหม่ Duni Letto ที่เปิดตัวในวันนี้เป็นกระดาษเนื้อผ้าสำหรับเช็ดปากใช้บนโต๊ะอาหาร โดยมีการพับเสร็จพร้อมใช้งานให้สามารถสอดมีดช้อนซ่อมให้ลูกค้าที่มาทานอาหาร ที่นอกจากความรู้สึกพรีเมี่ยมของเนื้อกระดาษ หลากหลายสีแล้ว ยังสามารถพิมพ์ลายหรือ เพิ่มข้อความเพื่อสร้างแบรนด์ให้กับลูกค้าได้ด้วย
โซลูชั่นสินค้าของบริษัทฯ จะมีส่วนสนับสนุนและสร้างโอกาสทางธุรกิจให้ผู้ประกอบการได้ด้วย ทั้งลดต้นทุนหรือเพิ่มมูลค่าให้สินค้า รวมถึงมีส่วนเสริมภาพลักษณ์และสะท้อนตัวตนของร้าน เช่น กรณีของโรงแรมสี่ดาวขึ้นไป หรือ ร้านอาหารพรีเมี่ยม ส่วนใหญ่จะใช้ผ้าลินินในการปูโต๊ะอาหาร เพื่อเสริมภาพลักษณ์ ซึ่ง Duni Letto จะมีราคาต่อชิ้นใกล้เคียงกับต้นทุนในการทำความสะอาดผ้าที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน โดยที่ลูกค้าสามารถลดต้นทุนในการดำเนินงาน ทั้งประหยัดเวลา และแรงงานในการจัดเก็บและพับได้ ทิศทางธุรกิจและกลยุทธ์การตลาด HoReCa ในไทย และภูมิภาคเอเชีย รวมถึงเป้าหมายในอนาคตนั้น ได้ให้ความสำคัญกับตลาด B2B (Business to Business) ในกลุ่มร้านอาหาร เป็นหลัก ซึ่งปัจจุบัน ดูนิ ไทยแลนด์ มีตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ และกำลังอยู่ในระหว่างแต่งตั้งตัวแทนเจาะกลุ่มเฉพาะอีกจำนวนหนึ่ง พร้อมกันนี้ในส่วนของกลุ่มสินค้าแพคเล็กจะมีการนำเข้าจำหน่ายในช่องทางโมเดิร์นเทรด เพื่อทำตลาดในส่วนของ B2C (Business to Consumer) ด้านช่องทางจัดจำหน่ายในต่างประเทศจะใช้เครือข่ายของ ดูนิ เอบี ซึ่งเป็นบริษัทแม่ พร้อมกับแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายในเมืองหลักทั่วภูมิภาคเอเชีย นอกจากแผนธุรกิจที่กำลังขยายทั้งในประเทศไทยและในอีกหลายประเทศนั้น ดูนิ กรุ๊ป (Duni Group) เป็นแบรนด์กระดาษเช็ดปากสัญญาติสวีเดนที่ตระหนักและดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนมาอย่างต่อเนื่อง บนมาตรฐานการผลิตจากโรงงานทั้งสองแห่งที่ประเทศเยอรมัน และโปแลนด์ รวมถึงโรงงานที่ประเทศไทยที่เป็นฐานการผลิตแห่งแรกนอกยุโรป
โดยมาตรฐานการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนนั้น มีทั้งการได้รับรองจากคณะกรรมการพิทักษ์ป่า (THE FOREST STREWARDSHIP COUNCIL :FSC) ที่ตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่ทำจากไม้ในป่า และมีการจัดการในลักษณะที่เหมาะสมกับสิ่งแวดล้อมเป็นประโยชน์ต่อสังคมและเป็นไปได้ทางเศรษฐกิจ พร้อมกันนี้ยังได้รับเครื่องหมายคุณภาพ THE RALจากสมาคมคุณภาพ แห่งยุโรป เพื่อให้แน่ใจว่าการเผาไหม้ของได้สะอาด ไม่มีสารที่เป็นอันตราย ไม่เสียรูป ปลอดภัย และเชื่อถือได้ ฉลาก OK COMPOST ที่ผ่านการรับรองจาก TUV Austria ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับการทำปุ๋ยหมัก และตรงตามมาตรฐานยุโรป EN13432 ผลิตภัณฑ์สามารถนำไปทำปุ๋ยหมักในสวนที่บ้านได้ นอกจากนี้ยังมี NORDIC SWAN ECOLABEL มาตรฐานที่ตอกย้ำถึงการเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดในตลาดจากมุมมองที่เป็นมิตรด้านสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างเช่น เป็นการยืนยันว่าเป็นวัสดุหมุนเวียน 90 % และลดการปล่อยฝุ่นควันการรับรองอย่างมั่นใจผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ดูนิ ผ่านการรับการรับรองด้านสิ่งแวดล้อมและคุณภาพที่หลากหลาย เน้นย้ำถึงความยั่งยืนและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ที่ให้ความสำคัญกับปัญหาสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม
Go To Lead
|